กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--แบรนด์เด็ด ดิ เอเจนซี่
บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) เทรดวันแรกพรุ่งนี้ (15 ส.ค. 56) มั่นใจคึกคัก พร้อมฉายภาพการเติบโตอย่างชัดเจน ตามแผนขยายสาขา "เอ็มเค สุกี้" และ"ยาโยอิ" ทั่วประเทศ วงการชูให้เป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock เชื่อมีนักลงทุนจับจ้องเป็นเจ้าของหุ้น M เพิ่มเติม ส่วนผู้ถือหุ้นยืนยันถือหุ้นยาว
นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ "M" ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้เครื่องหมายการค้า “MK Restaurants” เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค. 56) หลักทรัพย์ของบริษัทฯ จะเข้าทำการซื้อขายวันแรก ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในฐานะผู้บริหารมีความเชื่อมั่นว่า นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันจะให้การต้อนรับและสนใจลงทุนหุ้น M เป็นอย่างดี และคาดว่าความต้องการลงทุนหุ้น M ส่วนหนึ่งจะเข้ามาลงทุนซื้อขายวันแรกคึกคัก จากความต้องการลงทุนของนักลงทุนที่ต้องการร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
"ผมมีความเชื่อมั่นในนักลงทุนว่า จะให้การต้อนรับหุ้น "M" อย่างดี เหมือนเช่นเดียวกับช่วงที่เราเปิดจองไอพีโอ เมื่อวันที่ 5 - 7 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดจองเข้ามาจำนวนมาก แม้ว่าภาวะตลาดจะถูกกระทบจากปัจจัยภายนอกบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือนักลงทุน มีความเข้าใจในตัวธุรกิจของเราเป็นอย่างดี เป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน รวมทั้งเรามีแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนมาก น่าจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท นอกจากนี้ผมยังให้ความมั่นใจกับนักลงทุนได้ว่า ครอบครัวผมซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัททุกรายรวมทั้งผู้บริหารซึ่งถือหุ้นรวม 720 ล้านหุ้น คิดเป็น 79.5% (ไอพีโอ 185.85 ล้านหุ้น หรือ 20.5%) มีความตั้งใจจะถือหุ้นทั้งหมดเป็นลงทุนระยะยาวและไม่มีแผนจะลดสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มเราอย่างแน่นอน แม้ว่าตามเกณฑ์ตลาดฯจะติดSilent period เพียง 55% ที่เหลือกลุ่มเราก็จะถือไว้ยาว" นายฤทธิ์ กล่าว
ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น "M" กล่าวว่า หุ้น "M" นับเป็นอีกหนึ่งหุ้นไอพีโอที่นักลงทุนรอคอยในสภาวะตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนสูงเช่นนี้ เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งมาก และผลประกอบการอยู่ในระดับที่ดีมาก มีการขยายสาขาเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด รวมถึงการระดมทุนไอพีโอจำนวน 9,100 ล้านบาทในครั้งนี้ เพื่อจะรองรับการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจให้บริษัทได้เป็นอย่างมาก ประกอบการให้นโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย
"หุ้น "M" ถือเป็นหนึ่งในหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock และผ่านวงจรเศรษฐกิจขึ้นลงมาตลอด 28 ปีตั้งแต่ก่อตั้ง เป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของแบรนด์และทีมบริหาร แม้ว่าตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ยังอยู่ในภาวะผันผวน แต่ด้วยความโดดเด่นของ "M" ผมเชื่อว่าจะสามารถช่วยสร้างสีสันให้ตลาดหุ้นไทยได้เป็นอย่างดี" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว