สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 16, 2013 10:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,342 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,329 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.27 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,750 บาท กับ 19,850 บาท และกลับมาปิดที่ 19,700 บาท กับ 19,800 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 514 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 3,039 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.7% แบบ 10 บาท ลดลง 3.2% GFQ13 ปิด 19,800 บาท และ GFV13 ปิด 19,880 บาท GF10Q13 ปิด 19,800 บาท GF10V13 ปิด 19,870 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 27.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,360.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 1.148 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 22.935 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 912.92 ตัน (ขายออก 0.31 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 48 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 107.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 225.47 จุด ปิดที่ 15,112.19 จุด ข่าวที่สำคัญ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์บริเวณ 1,369 เหรียญเมื่อคืนนี้ โดยในช่วงตลาด COMEX ทำจุดสูงสุดที่ 1,362 เหรียญ จากความต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากเกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐและเหตุการณ์ในอียิปต์ทวีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นจากแรงเข้าซื้อทางเทคนิคหลังจากที่ราคาฝ่าแนวต้านสำคัญ 1,350 เหรียญไปได้ ก่อให้เกิดการใช้คำสั่ง buy-stop order ก่อนหน้านี้ราคาทองคำถูกแรงเทขายอย่างหนักในช่วงต้นตลาด COMEX หลังจากตัวเลข Jobless Claims ออกมาคนว่างงานลดลง 15,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบหกปี แต่ภายหลังก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างมหาศาลหลังจากตัวเลขต่างๆ ที่เหลือออกมาแย่ลงทุกตัว รายงานผู้เสียชีวิตจำนวน 525 รายจากความรุนแรงระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลของอียิปต์ ด้วยการที่กองกำลังทหารของรัฐบาลได้ยิงพลเมืองที่ออกมาประท้วงในท้องถนน ซึ่งข่าวนี้เองก็ช่วยสนับสนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาดทองคำ SPDR ขายออกเพียง 0.31 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 912.92 ตัน นักวิเคราะห์ต่างๆ ระบุว่า หุ้นทองคำของกองทุนพอลสันจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ แม้จะมีข่าวการขายหุ้นทองของกองทุนในไตรมาสที่สองก็ตาม World Gold Council ระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่สอง ปริมาณความต้องการทองคำทั่วโลกลดลง 12% สู่ระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีที่ 856.3 ตัน แม้จะมีความต้องการในอินเดียและจีนเพิ่มขึ้นจากราคาที่ปรับตัวลดลงก็ตาม โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ประกอบกับธนาคารกลางก็ไม่ได้เข้าซื้อเพิ่ม โดยต้นเดือนเมษายนราคาทองคำอยู่ที่ 1,596.65 เหรียญและสิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ 1,234.80 เหรียญ ลดลงไป 361.85 เหรียญ คิดเป็น 22.7% คำกล่าวของนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เมื่อวานไม่มีใจความสำคัญใดที่ส่งผลกระทบต่อตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน ส่งผลให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าเฟดจะเดินหน้าใช้ QE ต่อไปหรือไม่ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น นายโยชิฮิเดะ ซูกะ และนายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีคลัง ระบุว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาการลดภาษีนิติบุคคล ตลาดฮั่งเส็งเปิดลบเช้านี้ ตามดัชนีในภูมิภาค เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบสองปี ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์ว่าจะเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมที่ระดับ 0.2% - CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.5% คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 0.2% - Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 19.8 คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 15.6 ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 9.3 - TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -27.0B คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 31.3B ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ -66.9B - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 335K คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 334Kตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ระดับ 320K ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ -Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.92M คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.95M -Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.84M คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.91M -Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 85.1 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 85.6 ทิศทางทางราคาทอง ราคาทองคำปรับดีดตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปลายตลาด COMEX หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาต่ำกว่าที่คาด ซึ่งบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แม้ว่าคนว่างงานจะน้อยลง 15,000 ตำแหน่งก็ตาม ในวันนี้จะเป็นตัวเลขเกี่ยวกับภาคที่อยู่อาศัย ซึ่งภาพรวมของการคาดการณ์จะดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ไม่น่าจะส่งผลใดๆ ต่อตลาดทองคำหากออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์ แต่ถ้าตัวเลขต่ำกว่าที่คาด โอกาสที่ราคาทองคำจะดีดขึ้นต่อเนื่องก็จะมีสูง โดยที่ SPDR ขายทองคำออกเพียงเล็กน้อย 0.31 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ตามที่ MTS Gold ได้วิเคราะห์เตือนนักลงทุนให้ระวังสภาวะกลับทิศทางเนื่องจากราคาขึ้นมาทดสอบบริเวณเเนวต้านด้านบน ภาพของทางเทคนิคในกราฟระยะสั้นจะเห็นได้ว่ามีลักษณะ Reverse Head and Shoulder โดยที่บริเวณ Neck Line อยู่ที่ 1,345 เหรียญ ดังนั้นในเชิงเทคนิคจึงคาดว่า ราคาทองคำที่สามารถดีดทะลุ 1,350 เหรียญได้มีโอกาสที่จะดีดขึ้นไปได้อีก 50 เหรียญ คืออาจจะไปทดสอบบริเวณ 1,400 เหรียญ อย่างไรก็ดี บริเวณ 1,383 เหรียญจะเป็นแนวต้านแรกของเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันของนักลงทุนรายวัน จึงเป็นจุดแรกที่จะทำกำไรบริเวณดังกล่าว ดังนั้นโดยภาพรวมยังคาดว่าราคาทองคำจะขึ้นต่อในระยะสั้น โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1,350 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 1,380 เหรียญ ราคาเป้าหมายในอนาคตอันสั้นจะขึ้นไปทดสอบ 1,400 เหรียญ โดยยังคงย้ำให้นักลงทุนปิดสถานะ Short Position และหาจังหวะปิดสถานะ Long Position เพื่อทำกำไร กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ กลยุทธ์หลักคือการที่ราคาทองคำเป็นลักษณะของ Technical Breakout บริเวณ 1,350 เหรียญ กลยุทธ์จึงต้องเป็นการปิดสถานะ Short Position อย่างเดียว เพื่อที่จะกลับกลยุทธ์เป็นทำกำไรในทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น - นักลงทุนที่ถือ Long Position แนะนำให้ Follow ในการทำกำไรขาขึ้น โดยเปิดสถานะ Long Position เพิ่มขึ้นบริเวณแนวรับดังกล่าว และขายบริเวณ 1,380 เหรียญขึ้นไป - นักลงทุนที่ถือ Short Position ยังย้ำต้องทำ Stop Loss และปิดสถานะ Short Position หาจังหวะเปิดสถานะ Long Position 1,360 เหรียญและมีราคาเป้าหมายที่ 1,380 เหรียญ โดยยังเป็นโอกาสในการที่จะปิด Position เพราะถ้าปิดช้ากว่านี้คงจะลำบากในการตัดสินใจปิด ย้ำว่าการลงทุนต้องเข้าใจในการทำ Stop Loss ซึ่งได้แนะนำให้ทำไปแล้วตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนรวมถึงเมื่อวานนี้ด้วย Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,400 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,480 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ