กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--มทร.ธัญบุรี
คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จัดโครงการเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์กับวัฒนธรรมไทย 39 ปี เทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ราชมงคลธัญบุรี สร้างคุณค่าสู่สังคมไทย จัดนิทรรศการและสาธิต เพื่อสร้างองค์ความรู้ เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมให้แก่นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป มีความรู้ ความเข้าใจและเห็นคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมไทย หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจการบริการและสาธิตของสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ ในการรังสรรค์ข้าวไทย เพิ่มมูลค่าทางโภชนาการให้กับคนรักสุขภาพ และส่งเสริมเกษตรกรรรมของไทย ด้วยการสาธิตอาหารทั้งคาวและหวาน ได้แก่ ข้าวตังหมูหยอง ข้าวตู ข้าวผัดน้ำพริกแกงเขียวหวาน ขนมข้าว ไส้กรอกข้าว ข้าวห่อใบบัว ข้าวเม่าหมี่จากข้าวกล้องงอก ข้าวแต๋น ข้าวทอดปรุงสมุนไพร ข้าวตังแผ่นไรซ์เบอรี่เสริมน้ำพริกเผาเกสรบัวหลวง ข้าวทอดสมุนไพรแหนมสด เครปแป้งข้าวหอมนิลซอสมะม่วง และข้าวอบเบญจรงค์
ผศ.มาริน สาลี อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ เจ้าของไอเดีย “เครปข้าวซอสมะม่วง” เล่าว่า การนำเอาข้าว 5 สายพันธุ์ ประกอบด้วย ข้าวซ้อมมือหอมมะลิ/ข้าวซ้อมมือมะลิแดง/ข้าวซ้อมมือมะลินิล/ข้าวกล้องเหนียวและจมูกข้าว โดยในข้าวดังกล่าวมามีโปรตีนสูง ธาตุเหล็ก สังกะสี แคลเซียม และโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดี จากคุณประโยชน์ดังกล่าวจึงได้นำมาเป็นส่วนผสมหลังในการทำแป้งเครป ทางด้านซอสมะม่วงต้องการให้เครปมีรสชาติที่อร่อย หอมหวาน บวกกับประเทศไทยมีมะม่วงทุกฤดูกาล โดยมะม่วงที่ใช้ คือ มะม่วงมหาชนก เพราะว่า มีราคาค่อนข้างถูก โดยส่วนผสมประกอบด้วย แป้งอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วยตวง ข้าวหอมนิลนึ่งสุก 1 ถ้วยตวง นมข้นจืด 11/2 ถ้วยตวง ไข่ไก่ 4 ฟอง ไข่แดง 2 ฟอง วนิลา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา น้ำตาลป่น ? ถ้วย เนยละลาย 85 กรัม น้ำเย็น 1 ? ถ้วยตวง
ในส่วนของตัวซอสมะม่วง ประกอบด้วย เนื้อมะม่วงสุก 250 กรัม น้ำมะม่วง 1 ถ้วยตวง น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา นมสด ? ถ้วยตวง วิธีในการทำเริ่มจาก นำข้าวสุกมาปั่นรวมกับนมและน้ำเย็นจนละเอียด ผสมส่วนผสมที่เหลือ คนด้วยตะกร้อมือจนเข้ากัน นำไปกรองด้วยกระชอนละเอียด พักแป้งที่ได้ไว้ในตู้เย็น จากนั้นเทแป้งลงกระทะเทฟลอนโดยทาเนยเล็กน้อย คนจนแป้งสุกเป็นสีเหลืองนำมาพักไว้ ในการทำซอสมะม่วงเริ่มจากนำส่วนผสมทั้งหมดปั่นรวมกันจนเนื้อละเอียด นำมาตั้งไฟพอเดือดพักให้เย็นใช้ราดแผ่นเครป โดยส่วนผสมดังกล่าว สามารถทำแผ่นแป้งได้ถึง 100 แผ่น หรือถ้าใครต้องทำเป็นเครปเค้ก แนะนำให้ตีวิปปิ้งครีมผสมเนื้อมะม่วง แล้วทาวางเรียงเป็นชั้น ประมาณ 10 ชั้นสลับกัน ความเป็นไทยผสมผสานความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว
ทางด้าน ผศ.สุวรรณี อาจหาญณรงค์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ เจ้าของเมนู “ข้าวอบเบญจรงค์” เล่าว่า เป็นเมนูที่ทำรับประทานได้ง่าย นอกจากข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ส่วนผสมทั้ง 5 ที่ใส่ลงไปล้วนแต่อุดมไปด้วยสารอาหาร และคุณประโยชน์ แครอท มีวิตามินเอและสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา แก้โรคตาฝ้าฟางได้ดี แปะก๊วยมีรสหวานอมขมอมฝาด ช่วยบำรุงปอด แก้ไอ เห็ดหอมบำรุงสมอง เพิ่มความสดชื่น ลดคอเลสเตอรอล ถั่วฝักยาว อุดมไปด้วย แคลเซียม และกุ้งแห้ง สำหรับส่วนผสมในการทำข้าวอบเบญจรงค์ ประกอบด้วย ข้าวสารข้าวเจ้า 250 กรัม ข้าวสารข้าวเหนียว 50 กรัม น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ ขิงแก่หั่นตามขวางบางๆ 80 กรัม น้ำ 2 ? ถ้วย ผงปรุงรส (รสหมู) 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ เห็ดหอมแห้ง แช่น้ำหั่นเส้น 5 ดอกใหญ่ แครอทหั่น 100 กรัม ถั่วฝักยาวหั่น 1 ซม. 100 กรัม แปะก๊วย?ต้มสุก 150 กรัม และกุ้งแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ เริ่มจากการซาวข้าวสารสองชนิดสรงให้สะเด็ดน้ำ ตั้งไฟใส่น้ำมันในกระทะใส่ขิงและเห็ดหอม ใส่กุ้งแห้งลงผัด จากนั้นใส่ข้าวสารผัดลงเติมซีอิ๊วใส่ผงปรุงรสใช้ไฟปานกลางประมาณ 10 นาที ผัดจนเม็ดข้าวสารดีดตัว เทข้าวที่ผัดใส่หม้อหุงข้าว เติมส่วนผสมที่เหลือ แครอท ถั่วฝักยาว แปะก๊วย? เติมน้ำ จากนั้นหุงข้าว หรือจะใช้เป็นการนึ่งก็ได้
2 เมนูแนะนำจากข้าว สามารถนำไปได้นะจ๊ะ เจ้าของไอเดียไม่สงวนลิขสิทธิ์ การนำข้าวมาเป็นส่วนผสม ไอเดียสุดเจ๋ง ทั้งคุณค่าทางโภชนาการ และเป็นการส่งเสริมข้าวไทยอีกด้วย
กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี 02-5494-4994