กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--ทรู คอร์ปอเรชั่น
ทรูวิชั่นส์” ย้ำภาพ “The King of Sports” ผู้นำการถ่ายทอดสดกีฬาชั้นนำ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เดินหน้าทุ่มทุนให้คนไทยทุกชั้นทุกระดับได้เชียร์บอลไทยสะใจยิ่งขึ้น ล่าสุดสามารถประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกอาชีพไทย ตั้งแต่ปี 2557-2559 ต่อเนื่องอีก 3 ฤดูกาล โดยได้ลิขสิทธิ์ยิงสดฟุตบอลรวม 4 รายการ ทั้ง โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่าลีกวัน, มูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพ และโตโยต้าลีกคัพ
เมื่อวันอังคารที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา เวลา 14.30 น. ห้องวาสนา โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้มีการจัดงานแถลงข่าว และพิธีลงนามสัญญาการถ่ายทอดสด การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำปี 2557—2559 โดยมี นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท, นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท, นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และนายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สาย Commercial ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ร่วมกันแถลงข่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
จากกระแสความนิยมในกีฬาฟุตบอลลีกของประเทศที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี คนไทยตื่นตัวให้ความสำคัญ สนใจ ติดตามชม และเชียร์ฟุตบอลไทยอย่างล้นหลาม สร้างมูลค่าสร้างเม็ดเงินมหาศาล ให้แก่วงการฟุตบอลอาชีพไทย ทำให้การประมูลการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2557-2559 ได้รับความสนใจจากบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่หลายรายโดดเข้าร่วมวงประมูล ล่าสุด บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหาร และดูแลสิทธิประโยชน์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ และการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศอื่นๆ ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบสิทธิ์จากการประมูลการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2557-2559 ให้กับ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลรวม 4 รายการ คือ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก, การแข่งขันฟุตบอลลีกวัน, การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ และการแข่งขันฟุตบอลลีกคัพ ประจำปี 2557-2559
นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท กล่าวว่า “การประมูลการถ่ายทอดสดฟุตบอลอาชีพ ประจำปี 2557-2559 ตามกำหนดเดิมจะเริ่มกระบวนการเมื่อมีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เสร็จสิ้น แต่เมื่อพิจารณาแล้วการเลือกตั้งยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ และมีท่าทีว่าจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ซึ่งหากการประมูลต้องล่าช้าออกไป จะทำให้เกิดผลกระทบได้ จึงได้ตัดสินใจเริ่มกระบวนการประมูลการถ่ายทอดสด ซึ่งการประมูลครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก เซอร์เดวิด ริชาร์ด อดีตประธานพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เข้ามาเป็นที่ปรึกษา และดำเนินการตามขั้นตอนของสากล และในที่สุดก็ได้ผู้รับลิขสิทธิ์ คือ บริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด สำหรับเงินตอบแทนจากการขายลิขสิทธิ์ (TV RIGHT) ให้กับสโมสรต่างๆ นั้น ในเบื้องต้นจะมอบให้เป็น 3 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล เพื่อให้ทีมสโมสรใช้ในการเตรียมทีม ส่วนที่เหลือจะมอบให้ในช่วงหลังจบเลกแรก และหลังจบเลกสอง ซึ่งจากการขายลิขสิทธิ์ครั้งนี้ จะทำให้แต่ละทีมในไทยพรีเมียร์ลีกได้รับเงินสนับสนุนไม่ต่ำกว่า ปีละ 20 ล้านบาท รวมถึงทุกทีมสโมสรในลีกอาชีพอื่นๆ ที่จะได้รับเงินสนับสนุนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน”
นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป กล่าวว่า “ทรูวิชั่นส์ The King of Sports” ย้ำภาพความเป็นผู้นำการถ่ายทอดสดกีฬาชั้นนำระดับโลก ดีที่สุด และมากที่สุดในเมืองไทย ล่าสุดเอาใจคอกีฬาชาวไทย ที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล ด้วยการคว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลไทย 4 รายการหลัก ต่อเนื่อง 3 ฤดูกาลตั้งแต่ 2014—2016 นำโดย “ไทยพรีเมียร์ลีก, ลีกวัน, เอฟเอ คัพ และลีกคัพ” พร้อมต้อนรับการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลใหม่ เอาใจคอบอลระดับโลกด้วยการถ่ายทอดสด ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก, ลา ลีกา สเปน และกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ทำให้คอบอลได้เต็มอิ่มกับฟุตบอล 8 รายการสำคัญที่แฟนบอลชาวไทยให้ความสนใจมากที่สุด โดยมุ่งหวังว่าการถ่ายทอดสดจะช่วยส่งเสริมวงการฟุตบอลไทย เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนให้หันมาสนใจกีฬามากขึ้น รวมทั้งมีส่วนช่วยเป็นกำลังผลักดันให้สโมสรต่างๆ และฟุตบอลไทยก้าวไปข้างหน้า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับวงการกีฬาไทยอื่นๆ เช่นกัน โดยจะพยายามถ่ายทอดสดทุกรายการที่มีนักกีฬาไทยเข้าแข่งขัน เพื่อให้แฟนกีฬาไทยได้มีโอกาสชม และให้กำลังใจนักกีฬาที่ชื่นชอบ ทั้งวอลเลย์บอล, แบดมินตัน และสนุกเกอร์ ทั้งหมดนี้มาจากความตั้งใจจริงของทรูวิชั่นส์ในการส่งเสริม และยกระดับมาตรฐานวงการกีฬาไทยให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น”