กรุงเทพฯ--20 ส.ค.--อีริคสัน
ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุมประเทศที่มีอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่สูงสุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย
- จากผลการวิเคราะห์ล่าสุดของ Ericsson ConsumerLab พบการเข้าถึงสมาร์ทโฟนในประเทศไทยของผู้บริโภคในตัวเมืองนั้นมีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 17 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 36 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013
- การเข้าถึงแท็บเล็ตของผู้บริโภคในตัวเมืองมีอัตราเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าตัวจาก 2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013
- การใช้งานแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นจาก 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013
จากข้อมูลวิจัยในปี 2013 แสดงให้เห็นว่าในผู้บริโภคโดยเฉพาะในตัวเมืองในประเทศไทยนั้น มีอัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นจาก 17 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 36 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013 ในขณะที่การเข้าถึงแท็บเล็ตมีอัตราเพิ่มขึ้นจาก 2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดพบว่า การใช้งานแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้นจาก 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ขึ้นมาเป็น 57 เปอร์เซ็นต์ในปี 2013 จึงทำให้ประเทศไทยนั้นได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศในลำดับที่ 23 จากทั้งหมด 43 ประเทศที่มีการใช้งานแอพพลิเคชั่น
ท่ามกลางกลุ่มคนที่มีการใช้งานสมาร์ทโฟนจะพบว่ามีอัตราการใช้งานที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของการเข้าถึงระบบอินเทอร์เนต โซเชียลเน็ตเวิร์ค การแชตออนไลน์ และการใช้วีดีโอสตรีมมิ่ง นาย อัฟรีซาล อับดุล ราฮิม หัวหน้าวิจัย Ericsson Consumer Lab ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียเนีย เปิดเผยว่า“ถ้าหากเรามองดูที่การใช้งานสมาร์ทโฟน เราสามารถพูดได้ว่าคนไทยนั้นมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานดาต้าเซอร์วิสที่หลากหลาย โดยพวกเขานั้นใช้สมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานแอพพลิเคชั่น เพื่อการรับส่งแชตออนไลน์ ดูวิดีโอคลิป ติดต่อกับเพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทั้งนี้ 3 เหตุผลที่จะทำให้คนไทยนั้นมีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นก็เพื่อความต้องการที่อยากจะมีแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจต่างๆ จากใน App Store, การติดต่อกับผู้คนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และรวมทั้งความต้องการในการลองสิ่งใหม่ๆ
สำหรับปีที่ผ่านมา อัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนของกลุ่มคนที่มีสมาร์ทโฟนของคนเมืองโตขึ้นมากกว่าเป็น 2 เท่าจากในปี 2012 ไปสู่ 2013 ซึ่งเป็นอัตราที่โตขึ้นมาสูงที่สุดจากทุกๆ ประเทศที่มีการสำรวจ
นาย อัฟรีซาล กล่าวเสริมอีกว่า “ความต้องการการเข้าถึงอินเทอร์เนตได้ในทุกที่ ทุกเวลา และการติดตาม ข้อมูลอัพเดทใหม่ๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการซื้อสมาร์ทโฟน ในขณะที่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการซื้อแท็บเล็ต คือการเล่นอินเทอร์เนต การเล่นเกมส์ และ ความบันเทิง”
ทั้งนี้สำหรับการเข้าถึงแท็บเล็ตมีอัตราการเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า จากในปี 2012 จนมาถึง 2013 จากการศึกษาในเรื่องนี้ ทำให้พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเพิ่มในด้านการใช้งานแท็บเล็ตสูงที่สุดในภูมิภาคนี้อีกด้วย
นาย บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ข้อมูลการเข้าถึงสมาร์ทโฟนในประเทศไทยในรายงานฉบับนี้นั้นสอดคล้องกับข้อมูลจากรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนมิถุนายนที่อธิบายลักษระการใช้งานบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกอีกด้วย
อ้างอิงจากข้อมูลที่เราทำการเก็บรวบรวมจากโครงข่ายที่เราได้ดำเนินการจัดการต่างๆ ทั่วโลก ณ ตอนนี้เราคาดการณ์ได้ว่าจำนวนผู้จดทะเบียนใช้งานสมาร์ทโฟน จะเพิ่มสูงขึ้น 4.5 พันล้านคน ในปี 2018 โดยเมื่อปลายปี 2012 อีริคสันประมาณการณ์ไว้ว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั้งหมดอยู่ที่ 1.2 พันล้านคน โดย กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของโทรศัพท์มือถือซึ่งถูกขายในไตรมาสที่ 1 ในปี 2013 เป็นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เปรียบเทียบกับอัตราที่ผ่านมาคือโทรศัพท์สมาร์ทโฟนราว 40 เปอร์เซ็นต์ที่เคยถูกขายมาตลอดทั้งปีในปี 2012 นั่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตราการซื้อสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
อัตราการเติบโตในด้านของความสนใจในแอพพลิเคชั่น โซเชียลมีเดีย วีดีโอ และแชตออนไลน์ก็มีความสอดคล้องกับในรายงาน Ericsson Mobility Report เช่นกัน ซึ่งพบว่า Data Traffic ในโทรศัพท์มือถือเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2 เท่าจากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในป๊ 2018 เราคาดการณ์ว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของData Traffic ในโทรศัพท์มือถือ จะเป็นในรูปแบบ วีดีโออีกด้วย
สำหรับ Data Traffic ในโครงข่ายโทรศัพท์มือถือยังจะคงมีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นอย่างมากซึ่งมีเป็นผลมาจากการใช้ Smart Device และแอพพลิเคชั่นที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน และแน่นอนว่าสิ่งนี้จะเป็นผลกระทบต่อผู้ให้บริการเครือข่ายและ Regulators ต่างๆทั่วโลกที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมของเครือข่ายและจัดสรรปริมาณคลื่นความถี่อย่างเหมาะสมอีกด้วย
ตามรายงาน Mobility Report ในปี 2018 ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีความคาดหวังว่าจะใช้งานดาต้าบนโทรศัพท์ต่อเดือนมากขึ้นเป็น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปัจจุบัน หรือเปรียบเทียบคือการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 2 GB ต่อคน
เราคาดหวังว่าผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มความต้องการในด้านของการใช้งานดาต้า ซึ่งเป็นข้อมูลที่ชัดเจนเหมือนกับที่เราเคยรวบรวมเอาไว้