กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--พม.
วันนี้ (๒๑ ส.ค.๕๖) เวลา ๑๑.๔๕ น. นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การต้อนรับ Mr.ED ROYCE ประธานกิตติมศักดิ์ของคณะอนุกรรมาธิการแอฟริกา สาธารณสุข และสิทธิมนุษยชนและองค์การระหว่างประเทศ ภายใต้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการจัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) และคณะ พร้อมร่วมหารือเกี่ยวกับการดำเดินงาน ของรัฐบาลไทยในการจัดการปัญหาการค้ามนุษย์ และนำเยี่ยมชมสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะของสหรัฐฯ ที่ปรากฏ ในรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ (TIP Report) ประจำปี ค.ศ. ๒๐๑๓ ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มี ๒ ประเด็นหลัก คือ ๑)รัฐบาลไทยยังคงส่งตัวเหยื่อไปยังหนึ่งในเก้าสถานพักพิงที่ดำเนินการโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อรับบริการการให้คำปรึกษา ความช่วยเหลือทางกฎหมายที่จำกัด และการดูแลทางการแพทย์ แม้สถานพักพิงเหล่านี้จะไม่ได้มีทรัพยากรบุคคลรองรับให้ความช่วยเหลืออย่างเพียงพอเสมอไป หญิงชาวต่างชาติที่ทางการระบุว่าเป็นเหยื่อการค้าบริการทางเพศจำเป็นต้องพักอาศัยในสถานพักพิงของรัฐบาล ก่อนที่ทางการไทยจะส่งตัวกลับประเทศต้นทาง และโดยปกติแล้วไม่สามารถเลือกที่จะไปพักข้างนอกหรือออกจากสถานพักพิงได้โดยไม่มีผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้จัดหาบริการเฉพาะทางสำหรับเหยื่อการค้าบริการทางเพศที่เป็นเด็ก อีกทั้งการบังคับส่งตัวเหยื่อที่ไม่ยินยอมให้การยืนยันตัวผู้ค้ามนุษย์กลับประเทศส่งผลให้เหยื่อหลายคนถูกพากลับมาขายอีกครั้ง และ ๒)ยังคงมีการจัดบริการโทรศัพท์สายด่วนเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่จำนวนการติดต่อจากบุคคลที่ไม่ใช่คนไทยมีไม่มากนัก ชี้ให้เห็นว่าผู้อพยพชาวต่างชาติไม่ทราบเกี่ยวกับบริการดังกล่าว หรือไม่มั่นใจที่จะใช้บริการนี้เพื่อขอความช่วยเหลือ อีกทั้งไม่มีล่ามที่มีประสิทธิภาพให้บริการอย่างสม่ำเสมอ รัฐบาลไม่ได้รายงานความพยายามที่จะปรับปรุงระบบโทรศัพท์สายด่วนแบบกระจายศูนย์เพื่อรับรองว่าหน่วยงานท้องถิ่นต่างๆ ที่ส่งเรื่องต่อไปนั้นจะตอบข้อซักถามได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิผลเพียงพอ และไม่ได้เปิดเผยจำนวนเหยื่อที่ได้รับการระบุตัวหรือช่วยเหลือผ่านช่องทางนี้
นายวิเชียร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการหารือร่วมกับ Mr.ED ROYCE และคณะ ได้นำเสนอความคืบหน้าที่สำคัญของการดำเนินงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ คือ ๑) กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทุกคน ที่เป็นคนไทย คนต่างด้าว ทั้งเด็ก ผู้หญิง หรือผู้ชาย จะได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน และมีแนวทางการดำเนินงานที่จะพัฒนาสถานคุ้มครองต้นแบบในการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหาย เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับบริการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับบริบทของไทย ในระหว่างที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักร และเพื่อให้สามารถออกไปทำงานได้เป็นการชั่วคราว โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน และประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหายเป็นสำคัญ ทั้งนี้ จะได้จัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรเอกชน และองค์การระหว่างประเทศ ๒) รัฐบาลได้เปิดบริการสายด่วน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทร. ๑๓๐๐ ซึ่งให้ความสำคัญและเป็นการบูรณาการการช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ชื่อ “OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม” ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ครอบคลุม ๔ ประเด็นหลัก คือ การตั้งครรภ์ไม่พร้อม การค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก และการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เป็นหน่วยประสานงานหลักเรื่องการค้ามนุษย์ จะจัดทำระบบ Call Center ที่ศูนย์ OSCC ในกรุงเทพฯ โดยจะจัดให้มีล่ามแปลภาษา (เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา เวียดนาม อังกฤษ) ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดที่รับแจ้งเหตุ ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่เกิดเหตุในพื้นที่อื่น จะประสานส่งต่อให้ OSCC ในจังหวัดนั้น ๆ ระดมกำลังหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักสังคมสงเคราะห์เพื่อให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงทีต่อไป
"ขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในฐานะหน่วยประสานงานหลักในเรื่องนี้ จะเร่งบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ องค์กรเอกชน องค์การระหว่างประเทศ และประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย" นายวิเชียร กล่าวตอนท้าย.