กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--ได-อิจิ คิคากุ
อีซูซุนำทัพประชาคมกว่าร้อยชีวิต ร่วมรำลึกตำนานแห่งชัยชนะครั้งสำคัญของเหล่าวีรชนเวียดนามในช่วงสงครามเดียนเบียนฟู ในกิจกรรม “อีซูซุ คาราวานสัญจร” ประจำปี 2556 ส่งท้ายความประทับใจแบบเต็มอิ่มด้วยเส้นทางระหว่างประเทศ จาก ไทย (เชียงของ) — ลาว — เวียดนาม (เดียนเบียนฟู) ผ่านแดด ลม ฝน ไปไหนไปกันอย่างครื้นเครงกับรถอีซูซุคู่ใจ รวมระยะทางกว่า 500 กม.
“อีซูซุ คาราวานสัญจร” เส้นทางที่ 4 ออกสตาร์ทการเดินทางที่โชว์รูมอีซูซุ เชียงราย (2002) สาขาเชียงของ โดยได้รับเกียรติจาก มร. เอ. สุกียาม่า ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายขาย ดีลเลอร์ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, คุณพรหมโชติ ไตรเวช ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงราย และคุณสบธนา อั๋นประเสริฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงราย ร่วมพิธีตีธงปล่อยขบวนคาราวานในครั้งนี้ โดยอีกสีสันหนึ่งของการเดินทางข้ามฝั่งไทย — ลาว นั่นคือการขึ้นแพข้ามแม่น้ำโขง ซึ่งรถอีซูซุที่ร่วมคาราวานทั้ง 27 คัน ต่างร่วมใจเรียงแถวจัดระเบียบบนแพขนานยนต์ข้ามฝั่งอย่างสบายๆ และเมื่อได้มาเยือนประเทศลาวทั้งที ก็อดไม่ได้ที่จะขอแวะพักฝากท้องกันที่ร้านอาหาร “สบายดีหลวงน้ำทา” ร้านอาหารชื่อดังประจำท้องถิ่น มื้อนี้ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง เพราะอร่อยทุกอย่าง จากนั้นออกเดินทางต่อสู่แขวงอุดมไชย ปลายทางสุดท้ายของวันแรกในการเดินทาง จากนั้นในวันรุ่งขึ้นขบวนคาราวานจัดระเบียบแถวออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ด่านปางหกของลาว ผ่านสู่ด่านไตจาง ประเทศเวียดนาม และมาถึงเมืองเดียนเบียนฟูในที่สุด
ในอดีตเมืองเดียนเบียนฟู เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่ทหารฝรั่งเศสหมายมั่นใช้เป็นสมรภูมิ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้ยากแก่การเข้าโจมตี แต่ด้วยผู้นำการปฏิวัติของเวียดนามชื่อ “โฮจิมินห์” ได้อาศัยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของทหารประชาชน ถอดปืนใหญ่ออกเป็นชิ้นๆ แล้วขนลำเลียงขึ้นไปบนยอดเขารอบเมืองเดียนเบียนฟูด้วยความยากลำบาก หลังจากประกอบปืนใหญ่เสร็จ ทหารเวียดมินห์ที่อยู่ตามยอดเขารอบป้อมเดียนเบียนฟู ได้ระดมยิงปืนใหญ่เข้าตีป้อมของฝรั่งเศสอย่างพร้อมเพรียงกัน จนป้อมเดียนเบียนฟูแตก ฝรั่งเศสต้องยอมพ่ายแพ้และถอนตัวไปจากเวียดนามในที่สุด
เมื่อมาถึงเมืองประวัติศาสตร์นักกอบกู้อิสรภาพเช่นนี้ อีซูซุจึงจัดเต็ม นำเหล่าผู้ร่วมคาราวานตระเวนเที่ยวชมทั่วเมือง เริ่มจากแห่งแรกได้แก่ ป้อมปราการ Phu An Nan หรือที่นักท่องเที่ยวนิยมเรียกว่า ฐานทัพ A1 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดียนเบียนฟู มีความสูงประมาณ 80 เมตร ซึ่งในสงครามเดียนเบียนฟูเคยถูกใช้เป็นฐานที่มั่นอีกแห่งหนึ่งของกองทัพเวียดมินห์ มีฐานปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน รถถัง M 24 และอุโมงค์หลบภัย นอกจากนี้แล้วยังมีหลุมระเบิดขนาดใหญ่ซึ่งเกิดจากการทิ้งระเบิดของเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพสหรัฐอเมริกาเพื่อทำลายฐานที่มั่นของกองกำลังเวียดมินห์ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน จากนั้นนำเที่ยวชม อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะเดียนเบียนฟู ซึ่งตั้งตระหง่านกลางเมือง ทางเดินขึ้นชมอนุสาวรีย์ประกอบด้วยบันได จำนวน 56 ขั้น ซึ่งเท่ากับจำนวนวันที่กลุ่มปฏิวัติเวียดนามใช้ในการเอาชนะเหนือฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ จากนั้นนำทุกท่านร่วมซึมซับความรักชาติต่อที่ หอพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ “เจียน ทั่ง ลิด ซือ” ซึ่งมีความหมายว่า ชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์เดียนเบียนฟู อีกหนึ่งสถานที่สำคัญในการเดินทางมาย้อนรอยอดีตเดียนเบียนฟูครั้งนี้ เมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์จะพบกับสิ่งแรกคือหุ่นรูปปั้นจำลองสถานการณ์ระหว่างนายพลโว เหงียน เกื๊ยบ แม่ทัพเอกฝ่ายเวียดมินห์ เข้าหารือกับโฮจิมินท์ ผู้นำในขณะนั้น มุมต่างๆ ของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงยุทโธปกรณ์ เช่น หมวกไม้ไผ่สานเสียบแซมด้วยใบไม้เพื่อพรางตัว รองเท้ายาง รองเท้าสาน ภาชนะใส่อาหารบุบบี้ มีรอยกระสุน อาวุธปืนลูกซอง ปืนอาก้า มีดพร้า ลูกระเบิด ประกอบการฉายวีดีทัศน์ภาพการรบบางส่วนในสมัยนั้น ส่วนด้านนอกถูกนำมาใช้เป็นสถานที่เก็บซากรถถัง และปืนใหญ่สมัยสมรภูมิเดียนเบียนฟู จากนั้นนำชมศาลเจ้า หว่างกวงเจิ๊ด ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อสามร้อยกว่าปีที่แล้ว โดยชนเผ่าไทบิง หรือชาวเวียดนามพื้นเมืองเดิม ได้ร่วมมือกับชนเผ่าไทดำ ใช้บริเวณแห่งนี้ตั้งเป็นที่มั่นในการสร้างป้อมปราการเพื่อใช้ขับไล่ชาวจีนฮ่อที่มารุกรานสมัยสงคราม “แซง” จนสามารถปลดปล่อยประชาชนให้เป็นอิสระได้สำเร็จ ทั้งนี้ ในวันขึ้นปีใหม่ของทุกปีจะมีการจัดงานรำลึกถึงวีรกรรมหาญกล้าของบรรพบุรุษที่ศาลเจ้าแห่งนี้อีกด้วย
“ประทับใจทุกครั้งที่ได้มาร่วมคาราวานกับอีซูซุครับ ครอบครัวเราต้องมากันทุกปี ชอบบรรยากาศที่ทุกคนมาขับรถเที่ยว สนิทสนมเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้กระทั่งเพื่อนใหม่ๆ ที่มาเจอกัน ทำให้รู้สึกอบอุ่น อยากขอบคุณอีซูซุนะครับที่ผลิตรถยนต์ดีๆ ออกมาให้เราใช้แล้วยังสร้างสังคมที่ดี เป็นมิตร และจริงใจให้กับพวกเราผู้ใช้รถอีซูซุอีกด้วย ผมยืนยันเลยครับว่าจะใช้อีซูซุตลอดไปไม่เปลี่ยนใจแน่นอน” เสียงจากผู้ร่วมเดินทาง อีซูซุ คาราวานสัญจร คุณจำรัส — คุณวิภา สุมาลี รถอีซูซุหมายเลข 02
และอีกหนึ่งเสียงจากสมาชิกใหม่ ที่ร่วมท่องเที่ยวกับคาราวานอีซูซุเป็นครั้งแรก คุณกัญจภพ บุรุษภัคดี และคุณประจักษ์ งามสันเทียะ รถอีซูซุหมายเลข 15 “รู้สึกตื่นเต้นครับ ช่วงที่ขับรถก็เจอสภาพถนน และภูมิอากาศหลายๆ แบบ ทั้งเส้นทางบนภูเขาที่คดโค้ง ดินสไลด์เป็นบางช่วง ในเส้นทางระหว่างลาวไปเวียดนาม มีฝนตกด้วย ตื่นเต้นมากครับ ผมขับอีซูซุดีแมคซ์ สปาร์คผ่านมาเป็นพันโค้ง ขับดีไม่มีปัญหา เพราะรถอีซูซุมั่นใจได้อยู่แล้ว มาคราวนี้คุ้มครับ สนุกมากทุกวัน ได้มาเจอสังคมอีซูซุ ได้มาเที่ยวที่ใหม่ๆ อยากเชิญเพื่อนๆ ที่ใช้รถอีซูซุให้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมคาราวานสัญจรกับอีซูซุกันเยอะๆ ครับ”