กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สาธารณรัฐชิลี ขอขยายเวลาบังคับใช้เงื่อนไขใหม่นำเข้าผลไม้เข้ามาไทย รมว.กษ รับข้อเสนอพิจารณา พร้อมยืนยันเงื่อนไขการนำเข้าผลไม้ต้องให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในการปฏิบัติกับทุกประเทศ
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายฮาเวียร์ เบ็คเกอร์ มาแชล (H.E.Mr.Javier Becker Marshall) เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐชิลีประจำประเทศไทย ว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ใหม่ของไทยที่มีผลกระทบต่อการนำเข้าแอปเปิ้ล องุ่น เชอร์รี่ และกีวีจากชิลี โดยในส่วนขององุ่นชิลีได้ขอผ่อนผันให้องุ่นที่นำเข้าจากชิลีไม่ต้องมาจากสวนที่ขึ้นทะเบียนเพื่อส่งออกมายังไทย โดยขอให้ไทยพิจารณาขยายเวลาบังคับใช้เงื่อนไขการนำเข้าผลไม้จนถึงเดือนกันยายน 2556 เนื่องจากได้รับแจ้งเงื่อนไขการนำเข้าใหม่ที่ค่อนข้างกระชั้นชิด ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกองุ่นของชิลีไม่สามารถปรับตัวได้ทันภายหลังจากพระราชกิจจานุเบกษาประกาศบังคับใช้
นายยุคล กล่าวต่อไปว่า ในการผ่อนผันเงื่อนไขสำหรับสินค้าที่ชิลีได้เสนอมานั้น ไทยได้ประกาศเงื่อนไขการนำเข้าดังกล่าวและลงในประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2556 โดยที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้แก้ไขปรับปรุงเงื่อนไขการนำเข้าใหม่เพื่อความเหมาะสม ตามที่หน่วยงานด้านการอารักขาพืชของสาธารณรัฐชิลี (Servecio Agricola:SAG) ได้ให้ข้อคิดเห็นในที่ประชุม พร้อมทั้งแจ้งให้ SAG ทราบร่างประกาศเงื่อนไขฉบับสุดท้ายก่อนที่จะเสนอคณะกรรมการกักพืชพืชพิจารณา รวมทั้งร่างประกาศเงื่อนไขการนำเข้าผลไม้ 4 ชนิดจากชิลีด้วย ดังนั้นหากไทยอนุญาตให้การผ่อนผันแก่ชิลีจะถือเป็นการเลือกปฏิบัติ และจะส่งผลกระทบต่อมาตรการที่ได้ดำเนินไปแล้วกับประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องดังกล่าวกลับไปพิจารณาภายใต้คณะกรรมการกักกันพืช ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการพิจารณา ส่วนสินค้าเกษตรรายการอื่นที่ทางชิลีเสนอมานั้น ทางกรมวิชาเกษตรจะเร่งดำเนินการพิจารณาได้เร็วๆนี้