กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--ซีเอ็มโอ
“ซีเอ็มโอ” ประกาศความเป็นผู้นำในอาเซียน คว้างานใหญ่ แคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์มหกรรมซีเกมส์ ภายใต้ชื่อ “27th Myanmar SEA Games Lucky Cards Campaign” ด้วยรูปแบบการสื่อสารแบบครบวงจร ตั้งแต่การคิดกลยุทธ์การตลาด การผลิตสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ ตลอดจนการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ เพื่อกระตุ้นความตื่นตัว และสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ด้าน “ผู้บริหาร” เผย ปลื้มได้เป็นส่วนหนึ่งของงานกีฬาซีเกมส์ใหญ่ที่สุด ในรอบ 44 ปี ของพม่า พร้อมประกาศศักยภาพธุรกิจอีเว้นท์ไทย เติบโตได้ดีในต่างประเทศ บริษัทฯตั้งเป้าภายใน 3-4 ปี รายได้ต่างประเทศโต 10%
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารแบบครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ฮัลโล มาดาม มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (Hello Madam Media Group Co.,Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทด้านสื่อโฆษณาในประเทศพม่าที่ได้รับใบอนุญาติจากกระทรวงการกีฬาแห่งชาติพม่า ให้ CMO เป็นผู้บริหารจัดงานด้านการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในแคมเปญส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับมหกรรมกีฬาใหญ่ที่สุดในรอบ 44 ปี ของประเทศพม่า ภายใต้ชื่อ “27th Myanmar SEA Games Lucky Cards Campaign” (ซีเกมส์ ลัคกี้ การ์ด แคมเปญ) ซึ่งเป็นแคมเปญที่ ต้องการสร้างความตื่นตัวไปยังประชาชนในพม่าให้เตรียมความพร้อมและภูมิใจในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ 27th Myanmar SEA Games Lucky Cards Campaign (ซีเกมส์ ลัคกี้ การ์ด แคมเปญ) เป็นแคมเปญที่ต้องการสร้างการรับรู้ไปยังประชาชนชาวพม่า ราว 60 ล้านคน ในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาคอาเซียน ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ณ กรุงเนปิดอ โดยจะส่งเสริมการรับรู้ผ่าน ลัคกี้ การ์ด ซึ่งบนการ์ดจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับงานกีฬาซีเกมส์ พร้อมเลขรางวัล ซึ่งประชาชนผู้สนับสนุนลัคกี้การ์ดสามารถลุ้นรับรางวัลจากตัวเลขบนการ์ด โดยรางวัลมีมูลค่ารวม 200 ล้านจ๊าด (200,000,000 Kyat) โดยแคมเปญมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม — 30 พฤศจิกายน 2556
“การที่บริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นผู้บริหารจัดการงานแคมเปญกระตุ้นมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ในครั้งนี้ บริษัทฯ มีความยินดีและภาคภูมิใจ ที่ได้มีส่วนในการทำงานกับมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน โดยที่แคมเปญ SEA Games Lucky Cards นี้ จะสร้างความตื่นตัวและความภาคภูมิใจให้กับชาวพม่าในการเป็นเจ้าภาพงานกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ผ่านสโลแกนของแคมเปญที่ว่า “Proud to be Myanmar, support 27th SEA Games” โดยบริษัทฯ เป็นผู้ที่ดำเนินงานตั้งแต่คิดคอนเซ็ปต์ คิดกิจกรรม ตลอดจนทำโฆษณาประชาสัมพันธ์แคมเปญทั้งหมด ซึ่งคาดว่าแคมเปญนี้จะสร้างรายได้ประมาณ 30-60 ล้านบาท นอกจากนี้ นับเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจสู่อาเซียน อีกด้วย” นายเสริมคุณ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพของประเทศพม่าที่มีเศรษฐกิจเติบโตดี มีกำลังซื้อ และมีจำนวนประชากรที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย จึงได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในพม่า โดยตั้งเป้างานในประเทศพม่าประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ เป็นที่รู้จักในหมู่บริษัทเอกชน และบริษัทไทยในพม่า อยู่แล้ว แต่หลังจากการที่บริษัทฯ ได้เข้าไปทำงานแคมเปญซีเกมส์นี้ จะช่วยต่อยอดงานอื่นๆ ในพม่าได้อีก ซึ่งขณะนี้ รัฐบาล และสื่อมวลชนในพม่าเริ่มรู้จัก CMO มากขึ้น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านงานสื่อสารครบวงจรและบริหารงานอีเว้นท์จากประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศไว้ที่ 5% ของรายได้รวม
“แคมเปญ ซีเกมส์ ลัคกี้ การ์ด ครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับกิจกรรมทางการตลาดของพม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้รูปแบบของบัตรที่ระลึกนำโชคและแผนการสื่อสารแบบครบวงจรมาเรียกความสนใจจากประชาชน ซึ่งนับว่ายังไม่เคยมีมาก่อน โดยในวันเปิดแคมเปญ และเปิดขายการ์ดวันแรก มีประชาชนชาวพม่า ให้ความสนใจมาร่วมงานและซื้อการ์ดเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งยังมีเหล่าคนดัง,เซเลบริตี้,นักร้องชื่อดัง ของพม่า เข้าร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง อาทิ เช่น Mrs. L. Khun Yi ภริยาท่านรัฐมนตรี กระทรวงกีฬาแห่งชาติพม่า , Ms. Soe Yu Wai กรรมการผู้จัดการ Hello Madam Media Group , นักร้องชื่อดัง Sai Sai ตลอดจนมี Phyu Phyu Kyaw Thein และ Mg Mg Aye พรีเซนเตอร์ของแคมเปญ และกลุ่มสปอนเซอร์ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก”นายเสริมคุณ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการขยายงานต่างประเทศ ในปีนี้ บริษัทฯ จะขยายธุรกิจไปยังรอบๆ ประเทศเพื่อนบ้าน ในกลุ่มประเทศ CMLV ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดงานสำคัญๆ ไปหลายงาน อาทิ จัดงานเปิดตัวเที่ยวบินกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ของสายการบินไทยสไมล์ ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), งานเปิดตัวโคคา โคลา ที่ประเทศลาว และงานแถลงข่าวเปิดแคมเปญ “แจกหนัก จัดใหญ่” ของคูโบต้า ที่ประเทศพม่า เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีแผนงานไปยังประเทศอินโดนีเซีย โดยได้ร่วมกับบริษัทที่ทำธุรกิจไมซ์ (Mice) ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทำโครงการใหญ่ ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้เข้าไปจัดงานสงกรานต์ "เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์" Songkran Splendours ณ ประเทศอินโดนีเซีย มาแล้ว
สำหรับการขยายศักยภาพของธุรกิจอีเว้นท์ไทย ไปสู่อาเซียน นั่น มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นว่า มีการสำรวจพฤติกรรมของคนในแต่ละประเทศ พบว่าบางประเทศในกลุ่มอาเซียน ยังมีกิจกรรมด้านบันเทิง ตลอดจน อีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งที่ไม่ทันสมัยนัก จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่ธุรกิจอีเว้นท์ไทย ที่จะนำเครื่องมือและนวัตกรรมด้านแสง สี เสียง ไปแสดงให้ชาวต่างชาติได้เห็นศักยภาพของทีมงานไทย ไม่ว่าจะผ่านรูปแบบการจัดคอนเสิร์ต ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ตลอดจนการจัดงานตามเทศกาลต่างๆ
“ทั้งนี้ วางเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกทำไปได้แล้ว 500 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากต่างประเทศตั้งเป้าไว้ที่ 5% ของรายได้รวม และตั้งเป้า ว่าภายใน 4-5 ปีจากนี้ สัดส่วนรายได้จาก ต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 10%” นายเสริมคุณ กล่าวทิ้งท้าย