กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดบ้านพาชมโรงงานผลิตศูนย์กลางในภูมิภาค ASEAN ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี มูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท หลังดันตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรไทยโตต่อเนื่องครบ 35 ปี คาดปี 2556 ยอดขายในไทยและส่งออกร่วม 50,000 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำได้ตามแผน 50 % มุ่งพัฒนาระบบ "Total Process Solutions" สนับสนุนระบบการจัดการเกษตรกรรมอย่างครบวงจร เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันการทำการเกษตรของไทยให้ยั่งยืน
นายฮิโรชิ คาวาคามิ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด แถลงผลการดำเนินงานในไทยครึ่งปีแรกว่า "อัตราการเจริญเติบโตในธุรกิจเครื่องจักรกล
การเกษตรของสยามคูโบต้าโตขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายสูงถึง 25,000 ล้านบาท มั่นใจปลายปี 2556 ดันยอดขายได้ถึง 50,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย โดยมีสัดส่วนการขายในประเทศและต่างประเทศ 80:20 เนื่องจากเกษตรกรกำลังเร่งเพิ่มผลผลิตต่อไร่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดในภูมิภาค
ในส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันเขตรับผิดชอบพื้นที่การขายของสยามคูโบต้า
ประกอบด้วย กัมพูชาลาว พม่า และประเทศอื่นๆ ซึ่งในปีหน้าบริษัทฯ จะมีการลงทุนก่อตั้งบริษัทฯใหม่ใน 2 ประเทศ คือกัมพูชาและลาวโดยใช้ชื่อว่า “KUBOTA Cambodia Co,. Ltd.” โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ ณ กรุงพนมเปญ และ “KUBOTA Laos Co., Ltd.” สำนักงานตั้งอยู่ที่เวียงจันทน์เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ มีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงมีแผนขยายและพัฒนาเครือข่ายในการจัดจำหน่าย การส่งเสริมการจัดทำกิจกรรมด้านการตลาด รวมถึงการพัฒนาระบบการบริการหลังการขายและอะไหล่ โดยมีเป้าหมายในการขาย 5,000 ล้านบาทในกัมพูชา และ 2,000 ล้านบาทในลาว ภายในปี พ.ศ. 2558สำหรับรูปแบบการบริหารทั้งสองบริษัทฯ จะดูแลรับผิดชอบในด้านการทำตลาด และการบริการให้แก่ลูกค้าในลาว และ กัมพูชา ไม่รวมในด้านการผลิต ขาย และการขนส่งสินค้าบริหารงานโดยผู้บริหารระดับสูง จากสยามคูโบต้า เพื่อผลักดันนโยบาย ให้ไปในทิศทางเดียวกัน”
สำหรับตลาดภายในประเทศไทย นายโอภาศธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส เผยว่า "ปัจจุบันสยามคูโบต้าเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศไทย ด้วยเสาหลักที่แข็งแรงทั้ง 4 ด้านเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สยามคูโบต้าประสบความสำเร็จซึ่งได้แก่1.มีสินค้าที่มีคุณภาพและหลากหลาย2.การมีเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่แข็งแรงและครอบคลุมทั่วประเทศ 3. การให้บริการหลังการขายที่ดูแลด้วยใจ ผ่านศูนย์บริการและร้านค้ากว่า 180 แห่ง สามารถบริการเกษตรกรอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว และ 4. บริการสินเชื่อ จากสยามคูโบต้า ลีสซิ่ง ที่ช่วยทำให้เกษตรกรสามารถเป็นเจ้าของเครื่องจักรกลการเกษตรได้ง่ายขึ้นจนทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ส่งผลให้สยามคูโบต้าครองความเป็นที่ 1 ในกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลการเกษตร
นอกจากนี้บริษัทฯ กำลังดำเนินการสร้างคลังอะไหล่แห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 32 ไร่ และจัดทำระบบ Warehouse Management System (WMS)ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนครจ.ปทุมธานี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารคลังอะไหล่ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจอะไหล่ โดยใช้งบลงทุน 500 ล้านบาทเพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายอะไหล่ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่ได้มุ่งหวังเป็นเพียงผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตรเท่านั้น เราพยายามขับเคลื่อนตัวเองให้กลายเป็นบริษัทฯ ที่มีระบบการจัดการเกษตรกรรมอย่างครบวงจร หรือเรียกว่า “Total Process Solutions” คือ การจัดการเครื่องจักรกลการเกษตร (Machinery Solutions)ควบคู่กับการจัดการระบบเกษตรกรรม (Agricultural Solutions) ที่ครอบคุลมวิธีการจัดการในระบบการผลิต ระบบการจัดการพื้นที่และวัสดุทางการเกษตร ระบบโลจิสติกส์ ระบบพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร และการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร รวมถึงการบริหารองค์ความรู้ด้านการทำการเกษตร เพราะบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการทำ Total Process Solutions นี้จะทำให้เกิดการลดต้นทุนและการเพิ่มผลผลิตของเกษตรกร อีกทั้งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของการทำการเกษตรของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
นายโอภาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในวาระครบรอบ 35 ปี ทางบริษัทได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อขอบคุณผู้บริโภคตลอดทั้งปี โดยครึ่งปีแรกเป็นแคมเปญ “แจกหนักจัดใหญ่” เพื่อตอบแทนผู้บริโภค ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเกษตรกรส่งบัตรรับประกันคุณภาพเข้าร่วมทั้งสิ้น70,000 ใบ สำหรับครึ่งปีหลังบริษัทได้ออกแคมเปญสื่อสารการตลาด “บันทึกไว้บนผืนดิน 35 ปี สยามคูโบต้า” เพื่อสื่อสารถึงความพยายามของสยามคูโบต้า ตลอด 35ปีที่อยู่เคียงข้างและผูกพันกับเกษตรกรไทย สยามคูโบต้าได้เข้าไปให้ความรู้ นำโครงการต่าง ๆ เข้าไปส่งเสริมให้กับชุมชน กลุ่มเกษตรกร เพื่อให้ ผืนดินอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แคมเปญดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ควบคู่ไปกับกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมที่ได้บริษัทได้ทำอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา อาทิ โครงการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองหลังการทำนา โครงการขยายแปลงนา โครงการเกษตรปลอดการเผา โครงการส่งเสริมการทำปุ๋ยอินทรีย์สูตรวิศวกรรมแม่โจ้ 1 และล่าสุดกับโครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข ที่ลงพื้นที่ไปให้การสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วยตนเองอย่างเป็นรูปธรรม และผลักดันให้ชุมชนเข้มแข็งด้วยความรู้และความรักในอาชีพเกษตรกรรมที่พวกเขาถนัด ซึ่งบริษัทฯ ทำควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้านอื่นๆ คือ ด้านการศึกษาและเยาวชนสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นนโยบายหลักที่สยามคูโบต้า มุ่งมั่นตอบแทนสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด "เกษตรสีเขียว" หรือ Green Agriculture เพื่อให้เกษตรกรและสังคมพัฒนาเคียงข้างไปพร้อม ๆ กับบริษัทฯ อย่างยั่งยืน"