สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 28, 2013 10:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,398 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,418 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.16 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 21,150 บาท กับ 21,250 บาท และกลับมาปิดที่ 21,400บาท กับ 21,500 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,594 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,796 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 8.9 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 7.2 % GFQ13 ปิด 21,760 บาท และ GFV13 ปิด 21,940 บาท GF10Q13 ปิด 21,760 บาท GF10V13 ปิด 21,950 บาท สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 27.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,420.2 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 64.1 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 24.651 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 921.03 ตัน (ซื้อเข้า 0.9 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 3.09 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 109.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 170.33 จุด ปิดที่ 14,776.13 จุด ข่าวที่สำคัญ - ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำจุดสูงสุดในรอบเกือบสามเดือนที่ระดับ 1,423 เหรียญเมื่อวานนี้ จากความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและแรงเข้าซื้อทางเทคนิคประกอบกัน - ราคาทองคำสามารถเบรกทะลุ 1,400 เหรียญได้ในช่วงตลาดลอนดอนจากตัวเลขความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่ออกมาพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 16 เดือน ส่งผลสนับสนุนสกุลเงินยูโร และกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง - SPDR ซื้อเข้าเมื่อวานนี้ 0.9 ตัน คงทองปัจจุบันที่ระดับ 921.03 ตัน - HSBC ระบุว่า ราคาทองคำยังคงมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวสูงขึ้นต่อจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ในขณะที่รัสเซียและจีนออกเตือนการเข้าแทรกแซงทางทหาร - นักวิเคราะห์ต่างระบุว่า ปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐจะกลับมาเป็นความสนใจในอีกไม่กี่สัปดาห์ และอาจเป็นตัวกระตุ้นสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น - บาร์เคลย์ส แคปปิตอลระบุเมื่อวานนี้ว่า สินทรัพย์ในกลุ่มคอมโมดิตี้ทั่วโลกภายใต้การจัดการของบาร์เคลย์สเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2013 โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม สู่ระดับ 3.48 แสนล้านดอลลาร์ - ไอเอ็มเอฟระบุว่า ในเดือนกรกฎาคม รัสเซีย คาซัคสถาน เพิ่มปริมาณการสำรองทองคำติดต่อกันเป็นเดือนที่สิบ โดยรัสเซียซื้อเพิ่มประมาณ 6.3 ตัน และคาซัคสถานซื้อเพิ่ม 1.1 ตัน นอกจากนี้ ตุรกีซื้อเพิ่ม 22.5 ตัน และประเทศอาเซอไบจัน คีร์กีซสถาน กัวเตมาลา ก็เพิ่มการสำรองทองคำในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน ในขณะที่เม็กซิโกลดการถือครองทองคำเป็นเดือนที่ 15 - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่า สหรัฐจะไม่อาจกู้ยืมเงินได้อีกในช่วงกลางเดือนตุลาคม นั่นหมายถึงความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตอาจเกิดขึ้นใหม่ได้อีก เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีความต้องการในเรื่องการตัดลดค่าใช้จ่าย แต่นายโอบามากล่าวว่า เขาจะไม่เจรจาในเรื่องการจำกัดวงหนี้ - ทางด้านนายแจ็ค ลิว เลขาธิการการคลังสหรัฐ ระบุว่า กลุ่มนักการเมืองทั้งสองพรรคจะไม่ต้องการที่จะดำเนินนโยบายที่เสี่ยงในเรื่องการจำกัดวงหนี้ แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีแผนในการหลีกเลี่ยง - ประธานาธิบดีโอบามากำลังหารือกับอังกฤษและฝรั่งเศสในการบรรลุข้อตกลงเรื่องการดำเนินการกับซีเรีย โดยกองกำลังทหารสหรัฐเตรียมพร้อมในการเข้าต่อต้านซีเรีย ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธทางเคมีกับพลเรือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกถูกเทขาย เนื่องจากมีความกังวลว่า การเข้าแทรกแซงของรัฐบาลสหรัฐอาจก่อให้เกิดความรุนแรง - นายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวกับบีบีซีเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐพร้อมเปิดฉากโจมตีซีเรีย หากประธานาธิบดีบารัค โอบามา เลือกใช้มาตรการดังกล่าวและได้สั่งการลงมา - นายจอห์น วิลเลี่ยม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า เป็นสิ่งที่น่าท้าทายในการปรับนโยบายการคลังให้กลับไปสู่สภาวะปกติ โดยการตัดสินใจลดวงเงิน QE จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจไม่ใช่ตารางเวลา - นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ระบุว่า ปัญหายูโรโซนยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ว่าอยู่ในสภาพที่ดีกว่าเคยเป็นเมื่อหลายปีที่แล้วอย่างมาก และตอนนี้ยังคงไม่มีแผนการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนในประเทศซีเรีย ซึ่งคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ - ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองในเช้านี้ นำโดยตลาดนิกเกอิ วิตกสถานการณ์ซีเรีย เปิดตลาดร่วงเกือบ 2% - สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า ในวันนี้จะมีการประกาศดัชนีภาคการการผลิตของประเทศไทยประจำเดือนกรกฎาคม ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัว 1.9% หลังจากที่ลดลงไป 3.5% ในเดือนมิถุนายน โดยที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นวันที่สามอีก 0.1% แตะระดับ 32.19 บาท/ดอลลาร์ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน -S&P/CS Composite-20 HPI y/y ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 12.2% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 12.1% -CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 81.0 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 81.5 ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ -Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.4% คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.2% -Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.4M คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ระดับ 0.5M ทิศทางราคาทองคำ ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อวานนี้ โดยที่ขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนบริเวณ 1,420 เหรียญได้เป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน โดยที่ทองคำได้รับผลสนับสนุนจากความตึงเครียดในประเทศซีเรียซึ่งคาดว่าอาจจะมีสงคราม โดยที่สหรัฐอาจจะมีการแทรกแซงเนื่องจากซีเรียใช้อาวุธเคมี ซึ่งอาจจะมีการตัดสินใจภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า หมายความว่า โอกาสที่ราคาทองคำและราคาน้ำมันตอนนี้จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมีค่อนข้างสูง จากความตึงเครียดทางบริเวณตะวันออกกลาง โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ ออกมาดีขึ้นทั้งสองตัว ได้แก่ ดัชนีราคาบ้าน 20 เขต และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค แต่ไม่กระทบกับตลาดทองคำเลย โดยที่ตลาดทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และราคาทองไทยยังได้รับผลบวกต่อเนื่องของเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นต่อเนื่องด้วย เช้านี้มาอยู่ที่ระดับ 32.20 บาท/ดอลลาร์ วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ในระยะสั้นทองคำเป็นแนวโน้มขาขึ้นตามที่ได้ย้ำก่อนหน้านี้โดยตลอด โดยที่ย้ำให้นักลงทุนปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นขาขึ้นมามากกว่า 14 วันแล้ว โดยภาพรวมราคาทองคำมีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบด้านบนที่ระดับ 1,428 เหรียญซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญถัดไป ถ้าทะลุแนวนี้โอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบที่ 1,450 เหรียญก็จะมีค่อนข้างสูง กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ยังเป็นการทำกำไรสลับการเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว โดยใช้กลยุทธ์แนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,405 เหรียญและแนวต้านที่ระดับ 1,425 เหรียญ นักลงทุนที่ถือ Long Position ให้ขายทำกำไรเป็นช่วงๆ และเก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น นักลงทุนที่ถือ Short Position หาจังหวะในการปิดสถานะ Short Position ซึ่งได้แนะนำมากว่าสองสัปดาห์แล้ว Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,670 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,870 บาท Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 21,870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,070 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Research Department Tel: 02-222-6222 ext. 103 บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด 40, 42, 44

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ