กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--สแกนเนีย สยาม
ตลาดรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ขยายตัวสวนทาง คาดการภาวะเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังเริ่มชะลอตัว สแกนเนีย สยาม ค่ายรถใหญ่จากสวีเดน เผยตลาดรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่โต จากความต้องการของลูกค้าที่เริ่มเปลี่ยนมาใช้รถที่เน้นความคุ้มค่า ประสิทธิภาพสูง ประหยัด ทนทาน และบริการหลังการขายดี มากกว่าเรื่องของราคา ล่าสุด สแกนเนีย เปิดเกมรุกตลาดต่อเนื่อง ส่ง พี-ซีรีย์ (P-Series) ใหม่ ซึ่งได้รับความนิยมจากทั่วโลกบุกตลาดไทย ดันเป้ายอดขายรถบรรทุกปีนี้ทะลุ 330 คัน พร้อมเดินสายจัดกิจกรรมทั่วประเทศ มอบเงื่อนไขพิเศษแก่ผู้สนใจ
นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด (Mr. Phuriwat Rak-Intr, General Manager, Scania Siam Co., Ltd.,) กล่าวถึงความต้องการรถบรรทุกและรถขนส่งเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องและยังไม่ได้รับผลกระทบกับการที่หลายฝ่ายออกมาคาดการว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวว่า เกิดจากความต้องการของลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในภาคขนส่งและโลจิสติกส์ เริ่มหันมาพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการลงทุนและการเลือกใช้รถที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นมากกว่าเรื่องของราคา เพราะรถที่มีประสิทธิภาพสูงจะมีความคุ้มค่ากว่า ในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิง ความทนทาน และความปลอดภัยในการขับขี่ ช่วยลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและวิ่งงานได้เป็นระยะเวลานาน รวมถึงยังมีบริการหลังการขายที่ดี สะดวก รวดเร็ว และสามารถกำหนดระยะเวลาในการซ่อมบำรุงได้ ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังอาจเกิดภาวะการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจไปบ้าง แต่สำหรับในภาพอุสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ยังมีแนวโน้มที่ดีจากโครงการก่อสร้างพื้นฐานต่างๆ ของภาครัฐ และ แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่เริ่มฟื้นตัวส่งผลดีต่อการส่งออกและทำให้การขนส่งสินค้าเติบโตตามไปด้วย
สำหรับประมาณการด้านการขายรถบรรทุกและรถโดยสารของ สแกนเนีย นั้น ยังคงเป้าหมายสำหรับปี 2556 ไว้ที่ 500 คัน ซึ่งในสองไตรมาสแรกที่ผ่านมา ได้มีการส่งมอบรถให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 230 คัน นอกจากนั้น สแกนเนีย ยังมีการพัฒนากระบวนการผลิตและประกอบรถให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ทำให้ใช้ระยะเวลาในการส่งรถให้กับลูกค้าสั้นลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของลูกค้าและยอดขายโดยรวมของ สแกนเนีย อีกด้วย
นอกจากนั้นเพื่อเป็นการเดินหน้าการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง สแกนเนีย สยาม ยังได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ สแกนเนีย พี-ซีรีย์ (P-Series) ซึ่งถือว่ารุ่นที่มีความคุ้มค่าและเป็นที่นิยมสูงของสแกนเนีย รุ่นหนึ่ง โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ สแกนเนีย ได้เปิดตัว สแกนเนีย พี-ซีรีย์ พร้อมกันถึง 3 รุ่น คือ
- Scania P360 LA6x2MSZ สำหรับงานขนส่งทั่วไป ขับเคลื่อนเพลาเดียว ด้วยกำลัง 360 แรงม้า ตอบสนองด้วยแรงบิดที่สูงขึ้นในรอบต่ำ ทำให้ลดช่วงการเปลี่ยนเกียร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างดีเยี่ยมเหมาะสำหรับการขนส่งระยะทางไกล
- Scania P410 LA6x2MNA สำหรับงานขนส่งน้ำมัน ปิโตรเคมี หรืองานขนส่งทั่วไป ขับเคลื่อนเพลาเดียว เครื่องยนต์ DC13 ยูโร 3 ด้วยกำลัง 410 แรงม้า เครื่องยนต์รุ่นใหม่มีแรงบิดสูงขึ้นรอบเครื่องต่ำจึงทำให้ประหยัดกว่า ระบบเกียร์อัตโนมัติ Scania Opticruise GRS905 สะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมระบบเบรกลมล้วน 3 วงจร แยกอิสระทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และเบรกจอดดิสก์เบรกที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า EBS ช่วยลดระยะการเบรค พร้อมระบบ ABS, Traction Control และเบรกไอเสีย และเสริมด้วยระบบ Hill hold ช่วยในการป้องกันการไหลลื่นของรถในขณะออกตัวเมื่อรถต้องจอดบริเวณลาดชัน เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
- Scania P410 LA6x4MSZ สำหรับงานขนส่งทั่วไปในทางลาดชัน ขับเคลื่อนสองเพลาเครื่องยนต์ DC13 ยูโร 3 ด้วยกำลัง 410 แรงม้า เกียร์ธรรมดา GR905R โดดเด่นในเรื่องของระบบเบรกลมล้วน ทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และเบรกจอด, ดรัมเบรก ควบคุมด้วยระบบลมพร้อม ABS, Traction Control และเบรกไอเสีย ระบบเบรกเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ สแกนเนีย รีทาร์ดเดอร์ ลดการทำงานของเบรกในการลงเนิน พร้อมระบบขับเคลื่อนสองเพลาที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งในทางลาดชัน
ส่วนของแผนการตลาดในการเปิดตัว สแกนเนีย พี-ซีรีย์ นั้น นายภูริวัทน์ เปิดเผยว่าจะเน้นให้กลุ่มลูกค้าและผู้สนใจได้มาสัมผัสและทดสอบกับจุดเด่นและความพิเศษของ สแกนเนีย พี-ซีรีย์ ได้อย่างใกล้ชิด โดยจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษ (Road Show) ไปยังศูนย์บริการสแกนเนียทั่วประเทศ ทั้ง สมุทรปราการ หาดใหญ่ แหลมฉบัง สระบุรี สุราษฏร์ธานี และ ตาก นอกจากนั้นผู้สนใจจองซื้อรถภายในงานยังจะได้รับเงื่อนไขและสิทธิพิเศษจากสแกนเนีย ซึ่งการเปิดตัวสแกนเนีย พี-ซีรีย์ และการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ยอดจำหน่ายรถบรรทุกของ สแกนเนีย ในปี 2556 พุ่งสูงถึง 330 คัน และ สแกนเนีย พี-ซีรีย์ จะเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยเช่นเดียวกับที่เป็นที่นิยมของผู้ประกอบการขนส่งทั่วโลกมาแล้ว