นวัตกรรมรักษาโรคลิ้นหัวใจตีบโดยไม่ต้องผ่าตัด

ข่าวทั่วไป Thursday August 29, 2013 15:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--โรงพยาบาลรามคำแหง จากความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุขทำให้ประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันอุบัติการณ์ของโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะต่างๆก็เพิ่มขึ้น รวมถึงโรคลิ้นหัวใจตีบที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจ ฉะนั้นการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและคงไว้ซึ่งภาวะสุขภาพที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ ในอดีตพบว่าโรคลิ้นหัวใจตีบ เกิดจากโรครูห์มาติค ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอายุไม่มาก แต่ในปัจจุบันโรคนี้มักเกิดจากการเสื่อมสภาพของลิ้นหัวใจ ยิ่งผู้ป่วยมีอายุมากขึ้นเท่าไร อุบัติการณ์ของโรคลิ้นหัวใจตีบก็จะสูงขึ้นเท่านั้น คุณรู้จักลิ้นหัวใจดีแค่ไหน? ลิ้นหัวใจมีส่วนประกอบที่สำคัญของหัวใจ ในขณะที่หัวใจกำลังบีบตัวเมื่อเลือดไหลผ่านออกไป ลิ้นหัวใจจะปิดไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับมา จึงทำหน้าที่เสมือนประตูเปิด-ปิด ควบคุมให้เลือดในหัวใจไหลไปทิศทางเดียวสู่ปอดเพื่อฟอกออกซิเจนแล้วไหลกลับมา สู่ระบบโลหิตอีกครั้ง เมื่อมีปัญหาลิ้นหัวใจรั่ว เลือดจะไหลย้อนกลับมา แต่ถ้าลิ้นหัวใจตีบ เลือดจะไหลผ่านลิ้นหัวใจได้ลำบากในผู้สูงอายุสาเหตุเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เนื่องจากลิ้นหัวใจเป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหวและรับแรงดันจากเลือดตลอดเวลา ดังนั้นจึงเกิดการเสื่อมขึ้น อาจมีหินปูนเกาะที่ลิ้นหัวใจ ทำให้ลิ้นหัวใจหนาขึ้น และเปิดได้น้อยลง ผู้ป่วยจะเกิดอาการเหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก ใจสั่น ขาบวมตามมาด้วยหัวใจเต้นผิดจังหวะ เสียงฟู่บริเวณลิ้นหัวใจ จนถึงขั้นเป็นลมหมดสติบ่อยๆยิ่งลิ้นหัวใจตีบมาก หัวใจก็ยิ่งไม่สามารถจะบีบเลือดออกสู่ร่างกายได้ทำให้เกิดถาวะเลือดคั่งและหัวใจล้มเหลวในที่สุดหรือภาวะน้ำท่วมปอดนั่นเองโดยสถิติแล้วเมื่อผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจตีบมีสภาวะหัวใจล้มเหลว จะมีโอกาสเสียชีวิตภายใน 2 ปี สูงถึง 50% สำหรับวีธีการรักษานั้น วิธีการรักษาโรคลิ้นหัวใจตีบที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก คือการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เป็นการรักษาที่ได้ผลดีเยี่ยม ผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตเพียง 1-2 %เท่านั้น อย่างไรก็ตามยังมีผู้ป่วยโรคลิ้นหัใจตีบรุนแรงจำนวนหนึ่งที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เช่น ผู้ป่วยที่มีอายุมากๆหรือผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดในช่องงอกมาก่อน รวมทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีโอกาสเสียชีวิตจากการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจได้สูงถึง 20%หรือมากกว่าเป็นเหตุให้ผู้ป่วยหลายรายมักจะไม่ได้รับการส่งต่อไปยังศัลยแพทย์หรือหมอผ่าตัด หรือไม่ก็ถูกปฎิเสธการผ่าตัดไปเสียก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงเพราะหัวใจที่ต้องบีบเลือดผ่านลิ้นหัวใจที่ตีบจะค่อยๆล้มเหลว และผู้ป่วยจะเสียชีวิตในที่สุด เทคโนโลยีการเปลี่ยนลิ้นหัวใจตีบโดยไม่ผ่าตัด น่ายินดีที่วิทยาการทางการแพทย์ปัจจุบัน สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยลิ้นหัวใจตีบรุนแรงกลุ่มนี้ให้รอดชีวิตได้ ด้วยการใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวนเข้าไปแทนที่ลิ้นหัวใจเดิมที่เสื่อมสภาพโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากวิธีผ่าตัดที่ใช้กันในปัจจุบันคือ ต้องดมยาสลบ ผ่าตัดเปิดกระดูกหน้าอก แล้วใช้เครื่องปอดหัวใจเทียมทำงานแทนหัวใจกับปอด ซึ่งระหว่างที่ศัลยแพทย์ตัดลิ้นหัวใจเก่าออกและเย็บลิ้นหัวใจเทียมเข้าไปแทน ที่จะใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงและอยู่โรงพยาบาลพักฝื้นประมาณ 7-10 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น วิธีการใหม่จะใส่ลิ้นหัวใจเทียมผ่านสายสวน โดยจะนำลิ้นหัวใจเทียมแบบใหม่ที่ทำจากเนื้อเยื่อและได้รับการออกแบบให้สามารถหดขยายตัวได้มาใปลายของสายสวน จากนั้นใช้สายสวนนำลิ้นหัวใจเทียมเข้าไปอยู่ระหว่างลิ้นหัวใจเดิม แล้วจึงทำการขยายลิ้นหัวใจเทียมด้วยบอลลูนให้ขยายใหญ่ขึ้นคล้ายๆกับการกางร่ม ลิ้นหัวใจเทียมที่กางขยายออกจะเข้าไปแทนที่ลิ้นหัวใจเดิมที่เสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งวิธีการใส่สายสวนสามารถใส่ผ่านขาหนียหรือในกรณีที่เส้นเลือดบริเวณขาหนีบเล็กเกินไปจะใส่ผ่านแผลเล็กที่ชายโครงเข้าไปทางปลายหัวใจโดยตรงโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดกระดูกหน้าอก ไม่ต้องใช้เครื่องปอดหัวใจเทียมและไม่ต้อองหยุดหัวใจ ทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งผู้ป่วยพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 4-5 วัน สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999 www.ram-hosp.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ