กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--สหการประมูล
บมจ.สหการประมูล (AUCT) เผยสถานการณ์ตลาดประมูลรถยนต์และจักรยานยนต์มือสองเดือนสิงหาคม 56 ระดับราคารถทุกประเภทอ่อนตัว ชี้ปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ การเมือง และราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งปริมาณรถยึดจากไฟแนนซ์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลต่อระดับราคาลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถเก๋งราคาอยู่ที่คันละ 245,300—280,800 บาท คาดราคารถกระบะจะปรับสูงขึ้นช่วงปลายปี แนะเป็นช่วงที่น่าตัดสินใจซื้อใช้และลงทุน เนื่องจากราคาลดลง 50,000—70,000 บาทต่อคัน
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เปิดเผยว่า ข้อมูลของผู้ใช้สิทธิโครงการรถยนต์คันแรกจากกรมสรรพสามิตระบุว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 1.25 ล้านราย มูลค่าเงินคืนภาษีจำนวน 92,168 ล้านบาท ล่าสุดพบว่ามีการยกเลิกการใช้สิทธิไปแล้ว 4,837 ราย และไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขอีก 750 ราย ขณะที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ รายงานว่ามีการส่งมอบรถยนต์ไปแล้ว 1.04 ล้านคัน ยังเหลืออีกเพียง 2 แสนคันที่จะทยอยรับรถไปจนถึงต้นปี 57 ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าภาวะอุปทานรถยนต์จากโครงการรถยนต์คันแรกยังเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวตัวเลขยกเลิกการจองและลูกหนี้ที่อาจจะไม่สามารถชำระค่างวดได้ ส่งผลให้ภาวะตลาดประมูลน่าจะหาจุดสมดุลได้ในช่วงต้นปี 2557 และทำให้สถานการณ์ด้านราคาของรถยนต์มือสองยังคงอ่อนตัว จึงเป็นช่วงที่น่าประมูลซื้อเนื่องจากรถนั่งส่วนบุคคลขนาด 1300-1500 cc (ปี 2006-2008>) ระดับราคาอยู่ที่คันละ 245,300—280,800 บาท และรถยนต์ขนาด 1600-2000 cc (ปี 2006-2008>) ที่ระดับราคาอยู่ที่คันละ 354,000 — 385,750 บาท
สำหรับแนวโน้มตลาดประมูลรถกระบะเดือนสิงหาคมนั้น ยังมีปัจจัยลบเรื่องกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าเกษตรกรที่เริ่มหดตัวลงจากข่าวความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายจำนำข้าวในปีการผลิต 2556-2557 นอกจากนี้แล้วราคาสินเกษตรบางชนิด เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ยังมีแนวโน้มไม่ดีนัก ในขณะที่ในไตรมาส 3 เป็นช่วง Low season ของตลาดรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนตลาดรถกระบะมือสองสหการประมูลประเมินว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายรถยนต์คันแรกน้อยกว่ารถยนต์นั่ง เพราะไม่อยู่ในกลุ่มได้รับประโยชน์จากนโยบายรถยนต์คันแรกมากนักเมื่อเทียบกับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ดังนั้น ตลาดน่าจะฟื้นตัวได้ก่อนโดยคาดว่าจะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งระดับราคาประมูลเฉลี่ยปัจจุบันของรถกระบะได้ปรับตัวลดลงประมาณ 50,000—70,000 บาทต่อคัน หากจะปรับลดลงอีกคาดว่าไม่มากนัก ทั้งนี้ ยังคงแนะนำให้ประมูลซื้อเมื่อระดับราคาอ่อนตัว เช่น รถกระบะ Single Cab (ปี 2006 — 2008 >) ระดับราคาอ่อนมาที่คันละ 240,000 บาท และรถกระบะ Double Cab ( ปี 2006- 2008 >) ระดับราคาอ่อนมาที่คันละ 340,000 บาท
ส่วนตลาดประมูลจักรยานยนต์มือสองนั้นยังอยู่ในภาวะชะลอตัว จากปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และราคาสินค้าเกษตรบางตัวลดต่ำลง ประกอบกับอยู่ในฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง Low season นอกจากนี้แล้วปริมาณรถยึดจากบริษัทไฟแนนท์ยังคงมีปริมาณมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคสามารถขอสินเชื่อค่อนข้างง่าย แต่เมื่อไม่สามารถผ่อนชำระได้รถจึงถูกยึดเข้าสู่ตลาดประมูลมากขึ้น ส่งผลให้ราคารถจักรยานยนต์มือสองยังอยู่ในภาวะขาลง และคาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นช่วงที่เหมาะกับการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากระดับราคาจักรยานยนต์ Moped อยู่ที่คันละ 19,750 บาท และ Automatic อยู่ที่คันละ 17,700 บาท