กรุงเทพฯ--2 ก.ย.--WorkLink
PPS เผยแผนธุรกิจโค้งสุดท้ายปี 56 ปรับระบบการจัดการ คุมต้นทุน เพิ่มบุคลากร รองรับงานล้นมือ เล็งขยายฐานลูกค้าสู่ภาคอุตสาหกรรม พลังงาน และโครงการก่อสร้างในภูมิภาคอาเซียน โชว์ Backlog 355 ล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปี 280 ล้านบาทโตอย่างน้อย 10%
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้บริษัทได้มีการปรับแผนการดำเนินงาน และการบริหารจัดการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเพิ่มจำนวนพนักงานจาก 280 คนเป็น 310 คน เพื่อรองรับงานบริหารโครงการที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของลูกค้าเก่าและใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ PPS ยังมีแผนในการขยายฐานลูกค้างานบริหารโครงการก่อสร้างสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโตดี มีความมั่นคงทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น อาทิ กลุ่มลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม พลังงาน จากเดิมที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือจำนวน 355 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 จนถึงปี 2559 ขณะที่รายได้รวมปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 280 ล้านบาทเติบโตตามเป้าหมายอย่างน้อย 10% โดยประมาณการดังกล่าวไม่รวมถึงโอกาสในการเข้ารับงานบริหารโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการรับงานบริหารโครงการใหม่ เสนองานให้โครงการต่างๆ รวมทั้งมีลูกค้ารายใหม่ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีแผนขยายฐานลูกค้างานบริหารโครงการก่อสร้างในภาคอุตสาหกรรม พลังงานมากขึ้น รวมทั้งขยายงานออกไปสู่ประเทศภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เข้าไปรับงานบริหารโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในประเทศลาว และยังมีโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการเจรจา เตรียมความพร้อม เพื่อเข้าเสนองานด้วยเช่นกัน”นายธัช กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานของธุรกิจด้านการออกแบบวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทในเครือ ประกอบด้วย PPS DESIGN และ SWAN & MACLAREN Thailand ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าเสนองานให้กับโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้ารายได้ประมาณ 5 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการช่วงไตรมาส 2 ปี 2556 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 71.86 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.79 ล้านบาท หรือ 5.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 68.07 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิจำนวน 5.98 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.97 ล้านบาท หรือ 98.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 3.01 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตเนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากงานบริหารโครงการภาคเอกชนและภาครัฐเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน การบริหาร ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมส่งผลให้อัตราส่วนการทำกำไรในช่วงไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 8.53 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 8.62 ล้านบาท