กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่น
- ใช้ระบบปฏิบัติการแบบกลุ่มเมฆ (cloud operating system) ของ OpenStack เพื่อนำเสนอ service orchestration และ automation แบบเปิดและจากการใช้ทรัพยากรหลายแหล่ง
- เทคโนโลยี Avaya Fabric Connect จะถูกรวมเข้าไว้ในเฟรมเวิร์ก(framework) OpenStack เพื่อช่วยให้การเคลื่อนไหวของ Virtual Machine ภายในและระหว่าง Data Center ง่ายขึ้น
- จะช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่และผู้ให้บริการเพื่อนำเสนอบริการประเภท cloud-based ได้อย่างรวดเร็วด้วยขีดความสามารถในการขยายขนาดเพื่อรองรับ tenanted application ที่เพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 16 ล้านแอพพลิเคชั่น
อวาย่า (Avaya) เปิดตัวเฟรมเวิร์ก (framework) Software-Defined Data Center ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มผลิตภาพ ความคล่องตัว และ time-to-service ให้แก่ธุรกิจต่างๆ ที่ใช้ดาต้าเซ็นเตอร์เสมือน (virtualized data center) อย่างเข้มขัน ทั้งนี้ เฟรมเวิร์ก(framework) Avaya Software-Defined Data Center (SDDC) มุ่งที่จะลดการพึ่งพาดาต้าเซ็นเตอร์ไซโลแบบเดิมๆ ที่ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการเปิดใช้แอพพลิเคชั่นและแทนที่ด้วยกระบวนการ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที อวาย่าจะสาธิตขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ในงาน VMworld 2013 ณ Moscone Center ในซานฟรานซิสโก ระหว่างวันที่ 25-29 สิงหาคมศกนี้
เฟรมเวิร์ก(framework) Avaya SDDC ประกอบด้วย orchestration process ที่ผสาน ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และควบคุมการทำงานของ component ด้านการประมวลผล สตอเรจ และเครือข่าย การใช้ OpenStack cloud computing platform จะช่วยให้การจัดการดาต้าเซ็นเตอร์ติดตั้งและใช้งาน virtual machine ต่างๆ รวมถึงจัดการสตอเรจและปรับแต่งระบบเครือข่ายผ่าน graphical user interface เดียวกัน นอกกจากนี้ Avaya Fabric Connect ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของสภาพแวดล้อม OpenStack ได้โดยขจัดข้อจำกัดใน Ethernet VLAN/Spanning Tree-based network แบบเดิมๆ เพื่อให้โมเดลบริการระบบเครือข่ายมีความคล่องตัว ยืดหยุ่น และขยายเพื่อรองรับความต้องการได้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เฟรมเวิร์ก (framework) Avaya SDDC ตั้งอยู่บนองค์ประกอบดังต่อไป:
- เทคโนโลยี Avaya Fabric Connect เป็นกระดูกสันหลังเสมือนที่เชื่อมโยงแหล่งทรัพยากรต่างๆ ภายในและระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยความยืดหยุ่นและขนาดที่มากขึ้น
- Avaya OpenStack Horizon-based Management Platform ซึ่งมีหน้าที่ด้าน orchestration สำหรับการประมวลผล (Nova), จัดเก็บ (Cinder/Swift) และเครือข่าย ผ่านทาง Avaya Fabric Connect (Neutron)
- API ระบบเปิดที่นำเข้าไปในสถาปัตยกรรม Avaya Fabric Connect เพื่อความสะดวกในการบูรณาการ การปรับแต่งให้สอดคล้อง และการทำงานร่วมกันกับสถาปัตยกรรม Software-Defined Networking อื่นๆ
เฟรมเวิร์ก(framework) Avaya SDDC ให้ประโยชน์ดังต่อไปนี้แก่ธุรกิจต่างๆ:
- Time-to-Service ที่ลดลง: เปิดให้บริการคลาวด์ในเวลาไม่กี่นาทีผ่านกระบวนการ 5 ขั้นตอน
- Virtual Machine Mobility ที่ง่ายขึ้น: กระบวนการ end-point provisioning ที่เรียบง่ายช่วยให้เกิด virtual machine mobility ภายในและระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่กระจัดกระจายในแง่ภูมิศาสตร์
- Multi-Vendor Orchestration: มีการจัดสรรทรัพยากรของดาต้าเซ็นเตอร์อย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอนร่วมกันผ่านทางอินเตอร์เฟซเดียวเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการติดตั้งและใช้งานแอพพลิเคชั่น
- Scale-out Connectivity: ขยายขนาดบริการให้สามารถรองรับความต้องการมากกว่า 16 ล้านรายการ (unique service) จากเดิมที่จำกัดอยู่เพียง 4,000 รายการในเครือข่ายอีเธอร์เน็ต (Ethernet) แบบเดิม
- Secure Multi-Tenancy: ใช้ประโยชน์จากการรวมและแยกชั้นเครือข่าย การประมวลผล และการจัดเก็บข้อมูล
- ความยืดหยุ่นของเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น: เอาชนะความท้าทายของ VLAN ในปัจจุบันเพื่อสร้างเครือข่ายแบบ load-balanced และ loop-free ที่ซึ่งสามารถสร้าง logical topology ได้ โดยมีรูปแบบทางกายภาพที่เป็นอิสระ
เฟรมเวิร์ก(framework) Software-Defined Data Center ของอวาย่า ถือเป็นระยะแรกของโร้ดแมป(Roadmap) ด้าน Software-Defined Networking ของอวาย่า โดย Avaya Fabric Connect มีจำหน่ายแล้วในปัจจุบันบนแพลตฟอร์มระบบเครือข่ายที่หลากหลาย ได้แก่ Virtual Service Platform 9000, Ethernet Routing Switch 8800, Virtual Services Platform 7000 และ Virtual Services Platform 4000 ส่วน Avaya Horizon-based Management Platform และ API แบบเปิดจะมีจำหน่ายโดยทั่วไปในปีหน้า ทั้งนี้ ความคิดริเริ่มในอนาคตรวมถึงการขยาย Fabric Connect และ Orchestration เพื่อพัฒนาและส่งมอบบริการแบบครบวงจรดาต้าเซ็นเตอร์ไปยังคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
คำกล่าว
"ในหลายๆ แง่มุม นี่เป็นวิวัฒนาการเชิงตรรกะของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มระบบเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ของอวาย่า การเดินหน้าวิสัยทัศน์ของการใช้ Fabric Connect (บนฐานของ Shortest Path Bridging ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น) ในฐานะสถาปัตยกรรมแบบ end-to-end จึงสมควรจะเสริมความแข็งแกร่งด้วยระบบที่รองรับ orchestration และ automation อย่าง OpenStack ซึ่งนี่เป็นการขยายขีดความสามารถที่เป็นธรรมชาติและทรงพลังสำหรับ Avaya และเชื่อว่าจะได้รับการยอมรับจากลูกค้าปัจจุบันและอนาคตอย่างแน่นอน"
โรฮิต เมห์รา รองประธานฝ่าย โครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่าย ไอดีซี
"การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมศักยภาพที่จะเป็นผู้คุมเกมสำหรับ Fiducia เครือข่ายที่ซับซ้อนและตายตัวมีความขัดแย้งกันด้วยความก้าวหน้าที่ถือเป็นเรื่องธรรมดาในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล ขีดความสามารถด้าน real-time provisioning ของ Fabric Connect ถือเป็นปัจจัยสร้างความแตกต่างที่สำคัญและสร้างโอกาสที่จะขยายเข้าไปในพื้นที่ใหม่ เช่น orchestration และ provisioning แบบ end-to-end ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นหัวใจสำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์แบบอัตโนมัติในอนาคต"
โวล์ฟกัง บอสเชอต์ ตำแหน่ง Head of Security & LAN Infrastructure ของ Fiducia IT AG
"อวาย่ายังคงคิดค้นวิธีการที่จะออกแบบ สร้าง และจัดการเครือข่าย โดยใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของเทคโนโลยี Fabric Connect การเปิดตัวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าองค์กรสามารถตระหนักถึงประโยชน์ในแง่การดำเนินงานของ orchestration และ automation แบบเรียลไทม์ได้ทันที ขณะที่บางคนยังคงติดอยู่กับนิยามเดิมๆ ของ SDN และสิ่งที่มันอาจให้ได้ในอนาคต อวาย่ากำลังนำเสนอประโยชน์ในเชิงธุรกิจที่จับต้องได้สำหรับวันนี้"
- มาร์ค แรนดัล รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป อวาย่า เน็ตเวิร์กกิ้ง
Tags: Avaya, Avaya Aura, customer experience management, contact center, big data, multichannel, analytics, customer service, web service, multichannel service
*2013 BT - Avaya Autonomous Customer Survey
**ผลการศึกษา Nemertes Study ในหัวข้อ Top Contact Center Trends for 2013
เกี่ยวกับอวาย่า
อวาย่า (Avaya) เป็นผู้ให้บริการระดับโลกด้านโซลูชั่นเพื่อการสื่อสารและการทำงานร่วมกันทางธุรกิจ โดยจัดหาผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม unified communications, contact centers, networking รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ แก่องค์กรทุกขนาดทั่วโลก อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.avaya.com