บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุน KFMIX80-20 กองทุนผสมที่ให้โอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นโดยไม่ต้องเสี่ยงสูง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 3, 2013 14:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ย.--บลจ.กรุงศรี บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนเปิดกรุงศรีมิกซ์ 80-20 (KFMIX80-20) เพิ่มโอกาสในการสร้างความมั่นคงด้วยการลงทุนในตราสารหนี้ และเพิ่มความมั่งคั่งด้วยการลงทุนในหุ้น พร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ลงทุนในช่วงเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 3 — 10 ก.ย. 56 นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีมิกซ์ 80-20 (KFMIX80-20) ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสม มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ 80% และหุ้น 20% และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าปีละ 2 ครั้งในอัตราไม่ต่ำกว่า 10% ของกำไรสะสมหรือกำไรสุทธิ ทั้งนี้ กองทุน KFMIX80-20 จะใช้กลยุทธ์การบริหารเชิงรุกโดยการคัดสรรตราสารหนี้คุณภาพดี เพื่อโอกาสในการรักษาเงินต้น และเลือกลงทุนในหุ้นคุณภาพดี มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจสูง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถในการทำกำไรสูง และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ” “กองทุนมีการปรับสัดส่วนการลงทุนในอัตราส่วนที่กำหนดไว้ทุกเดือน (Rebalancing) เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนเป็นไปตามแนวทางการลงทุนที่กำหนดไว้ เนื่องจากบริษัทมองว่าการผสมหุ้นในพอร์ตการลงทุนในสัดส่วน 20% เป็นระดับที่เหมาะสม เป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะยาว ทั้งนี้ บริษัทได้มอบโปรโมชั่นพิเศษให้ผู้ลงทุนในช่วงการเสนอขายครั้งแรก โดยเมื่อลงทุนครบทุกๆ 200,000 บาท จะได้รับหน่วยลงทุนกองทุน KFCASH มูลค่า 100 บาท” “บริษัทเชื่อมั่นว่ากองทุน KFMIX80-20 จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนในหุ้นในสัดส่วนที่สูงมากนัก แต่ต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ ดังนั้นการผสมการลงทุนในหุ้นที่สัดส่วน 20% ถือเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมและช่วยสร้างผลตอบแทนในพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างดี” “หากพิจารณาจากข้อมูลย้อนหลัง 14 ปี จากการลงทุนด้วยเงินต้น 1 หมื่นบาท จะพบว่าหากผู้ลงทุนมีการลงทุนในเงินฝากประจำ 1 ปี จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 2.44% ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 4.81% ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ 0.92% ขณะที่การลงทุนในพันธบัตรอย่างเดียว จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5.76% ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 18.66% ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ -4.18% หากลงทุนในหุ้นอย่างเดียวจะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 14.28% ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 126.35 % ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ -45.10% และในกรณีที่มีการลงทุนในหุ้นไทย 20% ผสมกับพันธบัตร 80% จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 8.96% ปีที่ดีที่สุดอยู่ที่ 38.37 % ปีที่แย่ที่สุดอยู่ที่ 0.20% แสดงให้เห็นว่าไม่มีสินทรัพย์ใดที่ให้ผลตอบแทนสูงเสมอในทุกวัฎจักรเศรษฐกิจ ดังนั้นผู้ลงทุนลงทุนจึงควรวางแผนการลงทุนในระยะยาวและให้ความสำคัญกับการจัดสรรการลงทุน เพราะผลตอบแทนที่ดีขึ้นอยู่กับการจัดสรรลงทุนที่เหมาะสม” นายฉัตรพีกล่าวเพิ่มเติมว่า” บริษัทได้ปรับลดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลงสู่ 3.50% จากต้นปีที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวประมาณ 7.0% เนื่องจากการบริโภคชะลอตัวลงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และระดับหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ของปีนี้ยังคงฟื้นตัวในระดับต่ำ ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังคงเป็นภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลที่ยังคงค้างอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตได้ใน ระดับ 5.23%” นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ