กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--กรมสรรพสามิต
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า การบริหารจัดเก็บภาษีสุราในปัจจุบันอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ซึ่งใช้บังคับมานานไม่สอดคล้องกับระบบธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนไม่สามารถรองรับระบบการค้าโลกที่มุ่งเน้นให้เกิดระบบการค้าเสรี มีช่องทางให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีสามารถหลีกเลี่ยงภาษี ส่งผลให้การบริหารจัดเก็บภาษีสุราขาดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ของแผ่นดิน และเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ฉบับที่ 7 พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 3 กันยายน 2556 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีสุราทั้งระบบ ดังนี้
1. เปลี่ยนฐานในการคำนวณภาษีสุราตามมูลค่า จากเดิมที่ใช้ราคาขาย ณ โรงงานสุราสำหรับสุรา ที่ทำในราชอาณาจักร และราคา ซี.ไอ.เอฟ. บวกด้วยอากรขาเข้า สำหรับสุราที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นให้ใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้ายในการคำนวณภาษีตามมูลค่า ทั้งสุราที่ทำในราชอาณาจักรและสุราที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
2. ปรับปรุงการเสียภาษี จากเดิมที่ให้เสียภาษีตามมูลค่าหรือตามปริมาณแล้วแต่อัตราใดจะคิดเป็นเงินสูงกว่า เป็นให้เสียทั้งอัตราตามมูลค่าและตามปริมาณ
3. ปรับปรุงเพดานอัตราภาษีสุราแช่และอัตราภาษีสุรากลั่น
นอกเหนือจากการตราพระราชกำหนดตามร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ฉบับที่ 7 พ.ศ. 2556 เมื่อวานนี้ (3 กันยายน 2556) คณะรัฐมนตรียังได้เห็นชอบกฎกระทรวง 3 ฉบับ ดังนี้
1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ ในการกำหนดราคาสุราที่ทำในราชอาณาจักรและสุราที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี พ.ศ. 2556 มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้อธิบดีมีอำนาจประกาศกำหนดราคาขายส่งช่วงสุดท้ายสำหรับสุราที่ไม่มีราคาขายส่งช่วงสุดท้าย และสุราที่มีราคาขายส่งช่วงสุดท้ายหลายราคา ทั้งนี้ เนื่องจากในการประกอบธุรกิจของกิจการสุราในปัจจุบันทั้งสุราที่ ทำในราชอาณาจักร และสุราที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรมีรูปแบบที่หลากหลาย มีทั้งกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาต ให้ทำสุรา และผู้ได้รับอนุญาตให้นำเข้าสุราได้ขายส่งช่วงสุดท้ายให้แก่ผู้ขายปลีกหลายรายในราคาที่แตกต่างกัน เป็นเหตุให้มีราคาขายส่งช่วงสุดท้ายหลายราคา และมีทั้งกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตให้ทำสุราและผู้อนุญาตให้นำเข้าสุราได้ทำการขายสุราให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง เป็นเหตุให้ไม่มีราคาขายส่งช่วงสุดท้าย จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาฐานในการคำนวณภาษีสุราตามมูลค่า กรณีที่ไม่มีราคาขายส่งช่วงสุดท้าย หรือมีราคาขายส่งช่วงสุดท้ายหลายราคาที่เหมาะสม ชัดเจน และเป็นธรรมในระบบภาษี
2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ ในการแจ้งราคาขายส่งช่วงสุดท้าย พ.ศ. 2556 มีสาระสำคัญคือ กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 แจ้งราคาขายส่งช่วงสุดท้ายตามที่กรมสรรพสามิตประกาศกำหนด ทั้งนี้ เนื่องจากในการกำหนดให้ใช้ราคาขายส่งช่วงสุดท้ายเป็นฐานในการคำนวณภาษีสุราตามมูลค่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่กรมสรรพสามิตจะต้องทราบราคาที่ผู้ได้รับอนุญาตให้ขายส่งสุรา (ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2) ได้ขายส่งสุราช่วงสุดท้ายให้แก่ผู้ขายปลีก
3. ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสุราและอัตราภาษี พ.ศ. 2556 มีสาระสำคัญคือ กำหนดชนิดของสุราและอัตราภาษีสุราที่ใช้ในการจัดเก็บจริง
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติสุราดังกล่าวเป็นไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี อีกทั้งเพื่อให้บทบัญญัติของกฎหมายสุราสามารถบริหารจัดเก็บภาษีได้ทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของระบบการค้าโลก ในอนาคต ด้วยระบบภาษีสุราใหม่นี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมนโยบายในการลดการบริโภคแอลกอฮอล์ให้ลดลงด้วย