กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--IR network
“วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” เผยครึ่งปีหลังวางเป้า PJW จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน พัฒนาตลาดใหม่ ชูจุดเด่นการเป็น World Class Manufacturing และทีมวิจัยพัฒนา ในการสร้างนวัตกรรม มูลค่าเพิ่ม เพื่อความแตกต่างให้กับลูกค้า หลังได้โมเดลใหม่ด้านยานยนต์ เตรียมขยายตลาดน้ำมันหล่อลื่นที่ประเทศจีน ส่วนตลาดอาเซียนรอความชัดเจนด้านนโยบายจากลูกค้า วางเป้ารายได้ปีนี้โต 6-8% ส่วนผลดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้โชว์กำไรสุทธิ 96.7 ล้านบาท รับยอดขายเพิ่มขึ้นตามทิศทางอุตสาหกรรม
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) (PJW) เปิดเผยถึงแผนงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ว่า PJW จะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน โดยการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งบริษัทฯ มีจุดแข็งด้านทีมวิจัยและพัฒนา ในการสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า โดยเตรียมความพร้อมบุคลากรทั้งในด้านเทคนิคการผลิต (Production Technician) และความรู้ความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cross Cultural) เพื่อเพิ่มศักยภาพ รองรับการแข่งขันที่จะมีมากขึ้น
“ครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะระมัดระวังด้านการลงทุนมากขึ้น เพื่อรอดูทิศทางภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ของรัฐบาล รวมถึงปริมาณความต้องการของลูกค้า หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการลงทุนพัฒนาทั้งในด้านอาคารโรงงาน เครื่องจักร อุปกรณ์ บุคลากร โดยขยายกำลังการผลิตใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยยังคงมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับออเดอร์ใหม่ด้านยานยนต์ ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ กำหนดออกสู่ตลาดช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้ที่ 6-8% ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยตั้งเป้าว่าจะรักษาอัตราการเติบโตที่ปีละ 20% เนื่องจากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นเติบโตจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย โดยปีหน้าคาดว่าจะรักษาระดับอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 10-15% ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า”
เขากล่าวต่อว่า PJW มีจุดเด่นด้านการเป็น World Class Manufacturing ประสิทธิภาพการผลิตและความสามารถการบริหารต้นทุน (Production Efficiency for Better Cost Competitiveness) นวัตกรรมและการสร้างมูลค่า (Innovation & Value Creation) ซึ่งจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าด้วยประสิทธิภาพการแข่งขันที่เหนือกว่าคู่แข่ง รวมถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ปี 2558
“อนาคตคาดว่าจะมีออเดอร์ใหม่จากลูกค้าเข้ามามากขึ้น รับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของสินค้าอุปโภค-บริโภค นม เคมี และยานยนต์ ขณะที่ตลาดอาเซียนยังรอความชัดเจนด้านนโยบายจากลูกค้า ซึ่งขณะนี้ ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยในส่วนของต่างประเทศปัจจุบันเรามีโรงงานทำบรรจุภัณฑ์ด้านน้ำมันหล่อลื่นแล้วที่ประเทศจีน ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามภาวะอุตสาหกรรม โดยได้มีแผนการขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น ในส่วนแผนการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในประเทศจีนจะมีความชัดเจนช่วงปลายปีนี้” นายวิวรรธน์ กล่าวในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุดไตรมาส 2/2556 มีกำไรสุทธิ 46.8 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 539.9 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 96.7 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 1,096.3 ล้านบาท สาเหตุที่ผลประกอบการที่เติบโตขึ้นนี้ เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับบรรจุสินค้าอุปโภคบริโภคและเคมีเกษตร ที่ยอดขายเติบโตขึ้น ขณะที่ชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ยอดขายชะลอลง ตามปริมาณความต้องการอุตสาหกรรมที่เริ่มหดตัวลง ซึ่งเป็นผลจากนโยบายรถคันแรก ขณะที่ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ดียิ่งๆ ขึ้น สู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงตลอดไป