กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--โรงพยาบาลรามคำแหง
โรคมะเร็งปากมดลูกมักเกิดกับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่เดี๋ยวนี้คุณหมอบอกว่าเป็นในผู้หญิงอายุน้อยลงแล้วก็ทำให้ผู้หญิงไทยของเราเสียชีวิตด้วยโรคนี้เยอะมากทีเดียว จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า โรคมะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตหญิงไทยปีละ 5,200 ราย เฉลี่ยวันละ14 ราย ป่วยเพิ่มขึ้นปีละ10,000 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ 45-55 ปี
มะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุอะไร?
เกิดจากโรคติดต่อ ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งและเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ชื่อเต็มๆเรียกว่า “ฮิวแมน แพปพิลโลมา ไวรัส” ( Human Papilloma Virus) หรือ HPV เชื้อตัวนี้ถ้าเราจะคุ้นเคยก็คือเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งเราพบมาเนิ่นนานแล้ว เพียงแต่ว่ากลุ่มเชื้อของตัวที่ทำให้เกิดโรคหูดหงอนไก่นั้นเป็นชนิดความรุนแรงน้อย ส่วนตัวที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นชนิดที่มีความรุนแรงมาก
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก?
ถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในระยะแรกๆที่ยังไม่มีการลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งขึ้น มีแค่ระดับเซลล์ที่ผิดปกติแค่นั้น ผู้ป่วยจะไม่มีอาการอะไรเลยแล้วก็จะนิ่งนอนใจว่าคงจะไม่ได้เป็นอะไร ทำให้คลาดจากการตรวจที่สำคัญไป คือการตรวจสุขภาพประจำปีทางสูตินรีเวช ซึ่งผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการมีเลือดออกมากผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่นที่ผิดปกติหรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทำอย่างไร?
ในปัจจุบันมีวิธีการตรวจหลายวิธี ตั้งแต่วิธีการดั้งเดิมที่เรียกว่า “แปปสเมียร์” ปัญหาที่พบจากการตรวจวิธีนี้คือ เวลาเราป้ายเซลล์ไปตรวจ ในบางครั้งไม่ได้เซลล์ที่ผิดปกติทั้งๆที่ผู้ป่วยรายนั้นอาจมีเซลล์ที่ผิดปกติซ่อนอยู่ เมื่อเราไปได้เซลล์ที่ปกติมา เพราะฉะนั้นการอ่านผลหรือการรายงานผลต่างๆก็ต้องรายงานว่าปกติ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยรายนั้นไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง อันนี้เรียกว่าผลลบลวง
อีกวิธีคือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี “ตินเพร็พ”โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเก็บตัวอย่างป้ายเยื่อบุผิวจากบริเวณปากมดลูกด้วยวิธีเดียวกับการทำแปปสเมียร์ แล้วนำเซลล์ตัวอย่างที่เก็บได้ทั้งหมดใส่ลงในขวดน้ำยาเพื่อรักษาเซลล์ส่งเข้าเครื่องอัตโนมัติ ในการเตรียมเซลล์เยื่อบุผิวที่ปราศจากสิ่งปนเปื้อนพวกมูกหรือเม็ดเลือดและลดการซ้อนทับของเซลล์ที่หนาแน่นเกินไปลงบนแผ่นสไลด์แก้ว ช่วยเพิ่มโอกาสให้พยาธิแพทย์ในการตรวจพบความผิดปกติที่มีอยู่ได้ดียิ่งขึ้น การตรวจเชื้อไวรัสเอชพีวี เป็นการตรวจทางห้องปฎิบัติการในขั้นละเอียดมากขึ้น ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อได้ร้อยละ 99.7
ใครบางที่ควรมาตรวจคัดกรองหามะเร็งปากมดลูก?
สตรีทุกคนควรตรวจมะเร็งปากมดลูก โดยเน้นสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
-สตรีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
-สตรีที่มีบุตรหลายๆคน
-สตรีที่สูบบุหรี่
***ข้อแนะนำสำหรับผู้หญิงไทยในเรื่องมะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคซึ่งพบได้มากและมีอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าเราสามารถตรวจพบในระยะแรกเริ่ม การรักษาอาจแค่ผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อที่ผิดปกติบริเวณนั้นออกหรือตัดมดลูกออกไป ในผู้ป่วยที่มีลูกเพียงพอแล้ว ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยให้ระยะของโรคลุกลามจนเป็นมะเร็งระยะ 1,2,3,4 ความรุนแรงมักจะมากขึ้นเรื่อยๆการรักษาก็จะทำได้ยากลำบากและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้นอย่างมาก
แต่ปัจจุบันมีการนำ “วัคซีน”มาฉีดเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งใช้ได้ผลค่อนข้างดี โดยฉีดบริเวณต้นแขนและใช้ได้กับเด็กหญิงตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพดีในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งในการป้องกันตัวเองจากโรคร้ายที่คุกคามชีวิตของผู้หญิงไทยในปัจจุบันให้มีความปลอดภัยมากขึ้น จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์สูตินรีเวชเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนดังกล่าวด้วย ร่วมกับวิธีการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพดีก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากที่สุด
สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999
www.ram-hosp.co.th