กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
- กำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย(EBITDA)เพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
- การเพิ่มทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงทำให้บัญชีงบดุลแข็งแกร่งขึ้น สามารถลดหนี้สินไปได้ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- โปรแกรมการลดค่าใช้จ่ายทำให้ผลประกอบการเป็นไปในทิศทางที่คาดหวังไว้
CEVA Holdings LLC หรือ CEVA หนึ่งในผู้นำบริษัทจัดการซัพพลายเชนแบบ non-asset ได้ประกาศผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งสิ้นสุดเมื่อ 30 มิถุนายน 2556 รายงานว่ากำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย(EBITDA)เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากไตรมาสที่แล้วซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีในด้านการปฏิบัติงานรวมถึงความสำเร็จจากแผนการลดค่าใช้จ่ายที่ได้มีการประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้
Key Financials ($ millions) Three months ended
Q2 2013 Q1 2013 Q2 20122
Revenue 2,148 2,117 2,291
Adjusted EBITDA1 80 40 82
1Excludes the impact of specific items which are significant non-recurring items such as restructuring and certain legal expenses.
22012 Adjusted for the impact of disposals
มร. ชลังเกอร์ กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศถึงอีกขั้นของความสำเร็จจากการดำเนินงานที่เราได้ปรับโครงสร้างงบดุลซึ่งนำความแข็งแกร่งมาให้กับบริษัท ในสถานการณ์ด้านการตลาดที่ไม่คล่องตัวนักรวมไปถึงการดำเนินการด้านการเพิ่มทุนของบริษัท เรายังได้กำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย(EBITDA)เพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวและสามารถเทียบเคียงได้กับตัวเลขปีที่ผ่านมา”
“เราสามารถสร้างความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในแง่การตลาดโดยลูกค้าของเราตระหนักดีว่า CEVA นั้นอยู่ในตำแหน่งทางการตลาดที่ดีที่จะสร้างความท้าทายและก้าวไปข้างหน้าอีกทั้งยังมีการเสริมความแข็งแกร่งให้กับสมรรถนะหลักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเราเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า เรายังคงมุ่งเน้นในการเพิ่มงานขายเพื่อเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดของเราให้เข้มแข็งมากขึ้น”
ผลประกอบการลดลง 6.2 % อยู่ที่ 2,148 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งสิ้นสุดเมื่อ 30 มิถุนายน 2556 เทียบกับ 2,291 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว อันเนื่องมาจากมูลค่าตลาดรวมในกลุ่ม Freight Management (FM) ที่ลดลง
มูลค่าตลาดรวมในกลุ่ม FMลดลง 11.7% โดยหลักๆแล้วเนื่องมาจากมูลค่ารวมในการขนส่งทางอากาศที่ลดลงและสถานการณ์ทางการตลาดที่ยังคงท้าทาย ส่วนผลประกอบการรวมในกลุ่ม Contract Logistics ลดลง 1.4 % อันเนื่องมาจากผลกระทบในตลาด U.S. ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราแจ้งสิ้นสุดสัญญาบางรายเพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมการลดค่าใช้จ่ายของเรา นอกจากนั้นมูลค่ารวมในตลาดหลายแห่งทั่วโลกก็ลดลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป
ในส่วนของกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย(EBITDA)เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอยู่ที่ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วนั้นสะท้อนถึงพัฒนาการที่ดีในการดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่าย
ในส่วนของContract Logistics นั้นเพิ่มขึ้น 34.9% ซึ่งส่วนต่างกำไรในอเมริกาและยุโรปได้ไปชดเชยมูลค่ารวมที่ต่ำลงในตลาดเอเชียได้
ตัวเลขของ Freight Management นั้นกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย(EBITDA)ลดลง 43.6% ปีต่อปีซึ่งหลักๆแล้วเนื่องมาจากมูลค่าตลาดรวมในส่วนของการขนส่งทางอากาศที่ลดลงนั่นเอง
ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2556 นี้ บัญชีงบดุลของ CEVA กลับมาสมดุลด้วยการเพิ่มทุนซึ่งช่วยลดหนี้สินรวมสุทธิได้ถึง 50% และยังช่วยลดดอกเบี้ยเงินสดรายปีได้เกือบครึ่ง ซึ่งส่งผลให้หนี้สินสุทธิเมื่อหมดไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,608 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เมื่อ 31 ธันวาคม 2555 อยู่ที่ 3,301 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)เงินสดและวงเงินสินเชื่อก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 656 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เมื่อ 31 ธันวาคม 2555 อยู่ที่ 391 ล้านดอลลาร์สหรัฐ )