กรุงเทพ--10 ต.ค.--ซัน ไมโครซิสเต็ม
ซันไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ฟ้องร้องต่อศาลชั้นต้นถึงกรณีที่ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ได้ละเมิดข้อบังคับในสัญญาว่าด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไลเซ่นส์เทคโนโลยีจาวาไปใช้สามารถทำงานร่วมกับทุกแพลทฟอร์มได้ โดยซันฯเรียกร้องให้ศาลออกคำสั่งห้ามไมโครซอฟท์ใช้โลโก้ “จาวา คอมแพททิเบิ้ล” (Java Compatible) เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมทั้งป้องกันไม่ให้นำเสนอเทคโนโลยีที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดนี้ออกสู่ท้องตลาดโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาไมโครซอฟท์ในการละเมิดการใช้เครื่องหมายการค้าครั้งนี้ ประกอบด้วย การโฆษณาซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิดละเมิดสัญญาการแข่งขันโดยไม่เป็นธรรมตลอดจนการแซกแซงและฉวยประโยชน์จากความได้เปรียบที่มีอยู่ซึ่งเป็นที่มาของการละเมิดข้อตกลงในครั้งนี้
ทั้งนี้ เนื่องจาก ข้อบังคับอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับไมโครซอฟท์หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตในการนำจาวาไปใช้ทุกๆรายคือจะต้องผ่านการทดสอบการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ทุกแพลทฟอร์มได้ (Java Compatibility) ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่าเทคโนโลยีนั้นๆ ตรงตามสเปกที่กำหนดไว้และสอดคล้องกับ APIs (Application Program Interfaces) หรือไม่ ซึ่งปรากฎว่าผลิตภัณฑ์เบราเซอร์ตัวใหม่ของไมโครซอฟท์ “อินเตอร์เน็ต เอ็กพลอเรอร์ 4.0” และ “ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับภาษาจาวา” (SDKJ) นั้นล้วนแล้วแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ทดสอบนี้ทั้งสิ้น
ดังนั้นแอพพลิเคชั่นที่เขียนขึ้นโดยใช้เครื่องมือพัฒนาของไมโครซอฟท์จะไม่สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการอื่นๆ อาทิ แมคโอเอส (MacOS), ยูนิกซ์ หรือแม้กระทั่งเบราเซอร์อื่นๆ เช่น เนทสเคป เนวิเกเตอร์ ได้เลย ในทางกลับกัน แอพพลิเคชั่นที่เขียนขึ้นโดยใช้ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์จาวาของซันซึ่งรันบนแมคโอเอส, ยูนิกซ์ และเนทสเคป เนวิเกเตอร์ ก็ไม่สามารถรันบนอินเตอร์เน็ต เอ็กซพลอเรอร์ 4.0 นี้ได้เช่นเดียวกัน
“ความรับผิดชอบลำดับแรกของซันฯในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์เทคโนโลยีจาวาคือการปกป้องการลงทุนจำนวนมหาศาลที่ซันฯและบริษัทคอมพิวเตอร์นับร้อยรายได้ทุ่มลงไป โดยที่เราได้รับการเรียกร้องให้ดำเนินการขั้นนี้ทั้งจากบรรดาผู้ที่ขอไลเซ่นส์จาวาไปใช้ ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมของจาวาตลอดจนผู้ถือหุ้นของซันฯ” นาย อลัน บาราทซ์ ประธานฝ่ายจาวาซอฟท์ของซันกล่าวพร้อมกับเสริมว่า
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจวบจนกระทั่งถึงเวลา 18.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน ซันได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะโน้มน้าวให้ไมโครซอฟท์กระทำตามข้อตกลงดังกล่าว เมื่อไม่เป็นผล ซันฯ จึงตัดสินใจฟ้องไมโครซอฟท์ในที่สุด
ตัวอย่างของข้อเรียกร้องในครั้งนี้ ได้แก่ “ไมโครซอฟท์จงใจที่จะดัดแปลงโปรแกรมไม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานของเทคโนโลยีจาวา เพื่อที่จะทำลายความสามารถด้านการทำงานข้ามแพลทฟอร์มในแบบของจาวาลง และเป็นสาเหตุให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เขียนโปรแกรมซึ่งสามารถรันได้บนแพลทฟอร์มที่ใช้ระบบปฏิบัติการระบบ 32 บิตของไมโครซอฟท์เท่านั้น และไม่สามารถใช้ระบบอื่นหรือเบราเซอร์อื่นๆได้
นอกจากนี้ยังมีข้อกล่าวหาอื่นๆ อาทิ “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำเลยอย่างไมโครซอฟท์ยังได้แอบดัดแปลง “Java APIs ” โดยการเพิ่มส่วนต่อประสานแบบวินโดวส์แบบ 32 บิตและ APIs (Application Program Interfaces) อื่นๆลงไปใน “Java Class Libralies ” ด้วย ไมโครซอฟท์ดำเนินการเช่นนี้เพื่อที่จะชักจูงนักพัฒนาซอฟต์แวร์อิสระที่ใช้ SDKJ ในการเขียนโปรแกรมโดยไม่รู้เท่าทัน ในการคาดหวังที่จะใช้โปแกรมทำงานแบบข้ามแพลทฟอร์ม
“เราได้สำรวจทางเลือกของเราที่มีอยู่ทั้งหมดแล้ว จึงได้ตัดสินใจว่าเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการสู้คดีในชั้นศาล” ไมเคิล มอริส รองประธานฝ่ายกฎหมายบริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ กล่าว
ข้อกล่าวหาจากซันคือการเรียกร้องให้ไมโครซอฟท์เลิกใช้โลโก้ “จาวา คอมแพททิเบิ้ล” ทั้งในชั้นต้นและเป็นการถาวร รวมทั้งห้ามมิให้ไมโครซอฟท์กระทำการทั้งทางตรงและทางอ้อมที่จะก่อให้เกิดความสับสน ความเข้าใจผิด ในหมู่ผู้ใช้ว่าอินเตอร์เน็ต เอ็กซพลอเรอร์ 4.0 และ SDKJ 1.1 สามารถรันข้ามแพลทฟอร์มได้ รวมถึงการกระทำทั้งทางตรงและทางอ้อมใดๆ ที่จะเป็นการลดคุณค่าของโลโก้ “Java Compatible ” ลง
“แบรนด์ของจาวามีคุณค่าอย่างมากในอุตสาหกรรม เมื่อใดก็ตามที่ผู้ใช้เห็น “จาวา” เขาจะรู้ได้ทันทีว่าสามารถ “เขียนครั้งเดียว รันได้ทุกระบบ (Write Once Run Anywhere ) การใช้งานเครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูง ตลอดจนการใช้สมาร์ทการ์ดไปจนถึงระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์” บาราทซ์ กล่าวและเสริมว่า “ เรามั่นใจว่าจาวาจะมีคุณสมบัติตรงตามนั้นและทั้งอุตสาหกรรมก็จะสนับสนุนปรัชญาดังกล่าวด้วย
ซันฯ ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ใช้วินโดวส์สามารถเรียกใช้แอพพลิเคชั่นที่เขียนขึ้นสำหรับโปรแกรมภาษาจาวาโดยใช้เน็ทสเคป เนวิเกเตอร์ นอกจากนี้ นักพัฒนาจาวายังสามารถรวบรวม “Java Performance Runtime for Windows ” ไว้ในแอพพลิเคชั่นของตนได้ โดยการใช้ผลิตภัณฑ์นี้ นักพัฒนาจะได้โปรแกรมจาวาสำหรับวินโดวส์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
นับตั้งแต่ที่ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ ได้ริเริ่มแนวคิด "The Network is the Computer" ในปี 2525 ทำให้ซันเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายฮาาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ และบริการอื่น ๆ และเป็นผู้นำด้านการให้บริการอินทราเน็ตอย่างกว้างขวาง ตลอดจนการขยายไปสู่ระบบอินเตอร์เน็ต ซันมีสำนักงานใน 150 ประเทศ และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 8.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ มีข้อมูลอยู่ใน World Wide Web ที่ http://www.sun.com.
ซัน ซันโลโก้ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ โซลาริส จาวา และ แนวคิด The Network Is The Computer เป็นเครื่องหมายการค้าซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของซันไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เครื่องหมายการค้าภายใต้ SPARC ได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยบริษัท SPARC International Inc. นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้เครื่องหมาย SPARC ได้รับการพัฒนาด้านสถาปัตยกรรมจากบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์--จบ