กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,382 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,363 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.14 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,950 บาท กับ 21,050 บาท และกลับมาปิดที่20,850 บาท กับ 20,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,062 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่3,648 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3 % แบบ 10 บาท ลดลง 2 % GFV13 ปิด 20,910 บาท และGFZ13 ปิด 21,030 บาท GF10V13 ปิด 20,930 บาท GF10Z13 ปิด 21,030 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 22.70 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,364 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 70.1 เซนต์ ปิดที่ระดับ 23.016 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 917.13 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 107.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 127.94 จุด ปิดที่ 15,191.06 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 20 เหรียญทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบสามสัปดาห์ที่ระดับ 1,358 เหรียญเมื่อวานนี้ จากความกังวลในเรื่องสงครามที่ลดลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงก็เป็นแรงกดดันราคาทองคำ และไม่มีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจ
แบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริ่ล ลินช์ ระบุว่า หากเฟดลดขนาด QE น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1 - 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ อาจทำให้ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากมีโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่ไตรมาสที่จะมาถึง
UBS กล่าวกับ CNBC ว่า หากเฟดมีการปรับลด QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงไปถึงระดับ 1,250 เหรียญ และยังไม่รับประกันว่าอาจหลุดระดับ 1,200 เหรียญด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่าตอนนี้ซีเรียจะยอมรับความเห็นที่รัสเซียร้องขอให้ซีเรียยอมให้อาวุธเคมีอยู่ในความควบคุมของนานาชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากสหรัฐ
นายโอบามายังเรียกร้องให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติการใช้กำลังการทหาร โดยระบุว่า สหรัฐจะหารือกับรัสเซีย จีน และสหประชาชาติในการเข้าควบคุมอาวุธเคมีของซีเรีย และทำลายทิ้ง โดยนายโอบามาได้หารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ถึงเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ธนาคารกลางต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 4 แห่ง อันได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมวันพฤหัสบดี เพื่อรอผลการตัดสินใจของเฟดในสัปดาห์หน้า
นายจอร์จ อัสมุสเซน สมาชิกบอร์ดบริหารของอีซีบีระบุว่า หากเฟดมีการลดขนาด QE จะก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างรุนแรงต่อความสมดุลของเศรษฐกิจทั่วโลก
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายความกังวลในเรื่องสงคราม
ตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สิบ จากการที่วุฒิสภาสหรัฐเลื่อนเวลาการลงมติการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ
ปัจจัยที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.8M คาดการณ์จะออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ -2.2M
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงท่ามกลางการยืดระยะเวลาการตัดสินใจของการโจมตีซีเรียออกไป ปรับตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,380 เหรียญลงมา และทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,359 เหรียญ ภาพรวมของราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง โดยที่มีเมื่อวานไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ และ SPDR เมื่อวานก็ไม่ได้ทำการซื้อหรือขาย คงทองเท่าเดิมที่ระดับ 917.13 ตัน ตลาดยังคงกลับมาจับตาให้ความสำคัญกับการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้าที่จะมีการแถลงผลการประชุมในวันที่ 18 กันยายน ว่าจะมีการลด QE หรือไม่อย่างไร ซึ่งถ้ามีการลด QE จริงอาจจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งจะกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงได้อีก
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้น กลาง และยาวอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือแนวรับสำคัญที่สองที่ระดับ 1,380 เหรียญได้ แนวรับสุดท้ายทางเทคนิคจะอยู่ที่ระดับ 1,355 เหรียญ ถ้าหลุดระดับ 1,355 เหรียญลงไป คาดว่ามีโอกาสที่จะลงได้ลึกถึง 1,300 เหรียญ ในวันนี้คาดว่าราคาน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,355 — 1,380 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ยังแนะนำเป็นกลยุทธ์ทิศทางขาลง โดยหาจังหวะในการขายก่อน โดยที่เงินบาทเองยังแกว่งตัวเช่นกัน เงินบาทมีแนวรับที่ 32.05 บาท/ดอลลาร์ ณ ขณะนี้เงินบาทอยู่ที่ 32.17 บาท/ดอลลาร์โดยประมาณ
นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำให้ปิดสถานะ Long Position ทำ Stop Loss ลด Position ให้เป็น 0
นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ทยอยซื้อปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ และเปิด Short เมื่อราคาขึ้นไปอยู่เหนือระดับแนวต้านที่สำคัญที่ระดับ 1,380 เหรียญ
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,050 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,940 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,140 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง