“PAE”ลุ้นผลการดำเนินงานปีนี้พลิกมีกำไร หลังตุนมูลค่างานในมือ 1.6 พันล้าน พร้อมลงทุนปรับระบบบัญชีและการเงิน หวังรายได้ 3 ปี (2557-2559)โตไม่ต่ำกว่า 20%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 11, 2013 15:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--ธามดี พลัส ผู้บริหาร“PAE”เผยปัจจุบันตุนมูลค่างานในมืองานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 1,600 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในปีนี้เพิ่มอีกกว่า 500 ล้านบาท และเตรียมเข้ายื่นประมูลงานอีกกว่า 20 โครงการ ลุ้นผลการดำเนินงานพลิกมีกำไรพร้อมลงทุนระบบควบคุมบัญชีและการเงิน เพื่อให้การทำงานมีความรัดกุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นขณะเดียวกันวางเป้าผลการดำเนินงาน 3 ปี (2557-2559) รายได้โตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเออี(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE ผู้ให้บริการงานออกแบบวิศวกรรมครบวงจรในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมีรวมถึงงานระบบไฟฟ้าโรงงาน และงานระบบทดสอบแบบไม่ทำลาย เปิดเผยว่าบริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานปี 2556 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ เนื่องจากขณะนี้บริษัทมีมูลค่างานในมืองานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในขณะนี้ประมาณ 1,600 ล้านบาทและคาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้เพิ่มอีกกว่า 500 ล้านบาทขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่จะเข้าร่วมประมูลมากกว่า 20 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าโอกาสที่จะได้งานมีมากกว่า 2,000 ล้านบาท “ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ที่ขาดทุนเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยสูญของโครงการเดิมซึ่งเป็นงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ และทั้ง 6 โครงการหากบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญก็มีโอกาสที่จะกลับคืนมาเป็นรายได้ ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างทั่วไป ซึ่งนับจากนี้ไปบริษัทจะหันไปรุกรับงานในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีเป็นหลัก เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ดีกว่าโดยงานล่าสุดที่บริษัทได้มาคืองานโครงการสร้างถังน้ำมันของ PTTEP มูลค่า 25.70 ล้านบาท” นายรัตนพล กล่าว สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน(ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 503.36 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 182.52 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทได้ลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างภายในองค์กร โดยเน้นระบบควบคุมทางบัญชีและการเงินทั้งหมด อาทิ ระบบบัญชีควบคุมเงินสด ระบบเงินทุนหมุนเวียน ระบบยืมเงินทดรอง ระบบจัดซื้อจัดจ้าง ระบบควบคุมโครงการ และระบบควบคุมทรัพย์สิน ทั้งนี้จากการปรับปรุงระบบดังกล่าว จะทำให้บริษัทสามารถรับรู้ถึงต้นทุนของโครงการที่ดำเนินการอยู่และโครงการใหม่ในอนาคต และคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้น “บริษัทได้จ้างทีมจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เข้ามาดูแลทางด้านระบบบัญชีและการเงิน เพื่อให้เป็นระบบตามหลักมาตรฐานสากลและทำให้รับทราบต้นตอของปํญหาว่ามาจากจุดไหน โดยบริษัทเชื่อว่าจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การปรับปรุงระบบดังกล่าวจะแล้วภายในสิ้นปีนี้และในปี 2557 จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอย่างแน่นอน” นายรัตนพล กล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าผลการดำเนินงาน 3 ปีข้างหน้า(2557-2559) รายได้ของบริษัทน่าจะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20% และสัดส่วนโครงสร้างรายได้รวมของบริษัทจะเปลี่ยนเป็น 80% มาจากการให้บริการครบวงจร(EPC) ที่มีทั้งการออกแบบ วางแผน จัดหาวัสดุอุปกรณ์ ก่อสร้างตลอดจนการให้บริการต่างๆแก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมพลังงานและ ปิโตรเคมี และอีก 20% จะมาจากการเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินโครงการ และการให้เช่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ (Mobile Power Plant)
แท็ก บัญชี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ