กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--GT Wealth Management
ราคาทองคำในตลาดปิดบวก US$2.55 ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับUS$1,366.14 ต่อออนซ์(Gold spot) ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ โดยปัญหาความขัดแย้งของซีเรียและชาติตะวันตกเริ่มคลี่คลายลงเนื่องจากซีเรียได้รับข้อเสนอของรัสเซียในการส่งอาวุธเคมีให้อยู่ในความดูแลขององค์กรความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขณะเดียวกันทางด้านสหรัฐฯได้หันมาใช้วิธีการเจรจาทางการทูตมากขึ้น ลดความกังวลต่อการเกิดสงครามทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นกลับมาน่าสนใจอีกครั้งโดยวานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาทองคำยังโดนแรงกดดันจากความกังวล FED อาจชะลอมาตรการ QE ในการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า ทางด้านค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งหลังมีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 917.13 ตัน
ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวเหนือระดับ US$1,360 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2556 (GFV13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 20,510 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 20,300 บาท ราคาเสนอขาย 20,400 บาท ลดลง 50 บาท
แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ประเด็นความขัดแย้งระหว่างซีเรียและชาติตะวันตกน่าจะผ่อนคลายไปในทางที่ดีขึ้นหลังสหรัฐฯเริ่มปรับใช่มาตรการทางการทูตเจรจาแทนมาตรการทางทหาร และซีเรียเองก็รับข้อเสนอของรัสเซียเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจัยนี้ได้ผ่อนคลายความกังวลของตลาดการลงทุนทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวสูงขึ้นสวนทิศทางราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ สัปดาห์หน้าการประชุม FOMC วันที่ 17-18 น่าจะกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้งเนื่องจาก FED อาจเริ่มปรับลด QE เทคนิค หากอ่อนตัวหลุดแนวรับสำคัญ US$1,360-58 จะทำให้รอบการขึ้นระยะสั้นที่ผ่านมาเสียไปกรอบแนวรับเป้าหมาย US$1350-30 แนวต้าน US$1365-80 ทิศทางค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าระยะสั้น กรอบการเคลื่อนไหว 31.50-32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากแรงไหลกลับของ fundflow
GT Wealth Management
www.gtwm.co.th
TEL : 02-673-9911