กรุงเทพ--29 ก.ค.--กทม.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร วันที่ 28 ก.ค. 40 เวลา 13.00 น. นายสุพจน์ วิสิฐวุฒินันท์ นายกสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ พร้อมด้วยผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์และมินิเธียเตอร์ จากบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์ โกลเด้น วิลเลจ บริษัทสหมงคลฟิล์ม จำกัด และบริษัทไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น จำกัด ได้เข้าพบ ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อหารือ และแก้ไขปัญหาร่วมกันเกี่ยวกับกรณีที่ทางกรุงเทพมหานคร ดำเนินการเข้มงวดตรวจสอบโรงภาพยนตร์และมินิเธียเตอร์ ที่ทำผิดกฎหมายในช่วงที่ผ่านมา
นายสุพจน์ กล่าวว่า กิจการมินิเธียเตอร์ในปัจจุบัน ได้มีการปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยตามพระราชบัญญัติป้องกันอันตรายอันเกิดแต่การเล่นมหรสพ พ.ศ.2454 ทุกประการ แต่ที่มีปัญหาในการไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการจากกรมโยธาธิการ เนื่องจากตัวห้างสรรพสินค้าที่ทางมินิเธียเตอร์ไปเช่าพื้นที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตเข้าใช้อาคารจากกทม.เรื่องนี้ตนเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการมินิเธียเตอร์ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าว ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดกทม.จึงต้องมาเข้มงวดกวดขันเฉพาะมินิเธียเตอร์ ทั้งที่ความจริง ควรจะตรวจสอบอาคารที่มีความผิดมากกว่า อย่างไรก็ตามตนยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการที่กทม.จเข้าไปตรวจสอบ และหากพบความผิดรวมทั้งยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขก็ขอให้สั่งปิดได้ทันที และระหว่างรอการแก้ไขดังกล่าว ตนอยากขอให้มีการผ่อนผันค่าปรับรายวันกับมินิเธียเตอร์ที่ไม่ได้กระทำผิดตามพรบ.ป้องกันอันตรายอันเกิดแต่การเล่นมหรสพ พ.ศ.2454 แต่ผิดเฉพาะอยู่ในอาคารที่ผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร นอกจากนี้จากการที่กทม.นำทีมออกตรวจสอบและมีการสั่งปิดมินิเธียเตอร์ที่ผ่านมา ทำให้มินิเธียเตอร์ที่เหลือต้องได้รับผลกระทบทางด้านภาพพจน์ โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นมินิเธียเตอร์เถื่อน ไม่มีความปลอดภัยทำให้รายได้ต้องตกลงไปด้วย
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติที่จะตรวจสอบเฉพาะมินิเธียเตอร์เท่านั้น แต่ได้ดำเนินการกับตัวอาคารห้างสรรพสินค้าควบคู่กันไปด้วย ทั้งนี้ กทม.จะมีการตรวจสอบมินิเธียเตอร์ซึ่งมีการกระทำความผิด จำนวน 124 โรงและอาคารที่เป็นที่ตั้งของมินิเธียเตอร์ ซึ่งทางกรมโยธาธิการได้ส่งรายชื่อมินิเธียเตอร์ดังกล่าวให้กทม.แล้ว โดยมี 14 แห่งที่ทำการดัดแปลงต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันอันตรายอันเกิดแต่การเล่นมหรสพ พ.ศ. 2464 และอีก 110 แห่งเป็นมินิเธียเตอร์ที่อยู่ในอาคารที่ผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และในการตรวจสอบดังกล่าวจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างกทม. กรมโยธาธิการ และผู้ประกอบการมินิเธียเตอร์ เข้าทำการตรวจสอบ และหากพบห้างสรรพสินค้าใด กระทำผิดตามพรบ.ควบคุมอาคาร ก็จะต้องมีการสั่งปิดทันที และจะส่งผลให้มินิเธียเตอร์ต้องถูกปิดไปด้วย
ด้าน รศ.ประภาภัทร นิยม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การที่ผู้ประกอบการมินิเธียเตอร์ มาหารือกับ กทม.ในวันนี้ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความถูกต้องของการใช้โรงภาพยนตร์ ซึ่งส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการดัดแปลง ต่อเติมอาคารให้เป็นมินิเธียเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต และผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันภยันตรายอันเกิดแต่การเล่นมหรสพ พ.ศ.2464 ของกรมโยธาธิการ รวมทั้งกรณีมินิเธียเตอร์ที่ปฏิบัติถูกต้องตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่อยู่ในห้างสรรพสินค้าที่ผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งกทม.ก็มีความเห็นใจผู้ประกอบมินิเธียเตอร์ อย่างไรก็ดีขณะนี้กรมโยธาธิการกำลังอยู่ระหว่างการเสนอขอแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 33 ข้อ 49 ตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เพื่อใช้อาคารที่ก่อสร้างก่อนปี 2535 สามารถขออนุญาตแก้ไขดัดแปลงอาคารให้ถูกต้อง ทั้งนี้คาดว่าอีกประมาณ 3 เดือน การแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวจะแล้วเสร็จ--จบ--