กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรฯ หารือโปรตุเกส พัฒนาความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนากาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าที่มีความต้านทานโรค หวังเกิดประโยชน์ต่องานวิจัยและอุตสาหกรรมกาแฟไทย
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นายหลุยส์ มานูเอล บาเครา เดอ โซซา (H.E.Mr.Luis Barreira de Sousa) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำประเทศไทย ว่า ได้มีการหารือถึงความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างทั้งสองประเทศเกี่ยวกับการปลูกเมล็ดกาแฟ ซึ่งเดิมไทยได้รับความร่วมมือจาก Coffee Leaf Rust Research Centre (CIFC) ประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงานกับประเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กาแฟที่มีความต้านทานต่อโรค โดยกรมวิชาการเกษตร ได้รับมอบเมล็ดกาแฟอาราบิก้าลูกผสมจาก Centro de Ferrugens Investigacao das Cafeeiro (CIFC) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ต้านทานโรคราสนิม และทางกรมวิชาการเกษตรได้นำมาพัฒนาต่อ อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2552 และ 2553 นักวิจัยจาก CIFC ได้เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมและสำรวจร่วมกับนักวิชาการเกษตรที่ทำวิจัยกาแฟของกรมวิชาการเกษตร พร้อมทั้งได้ร่วมสำรวจการระบาดของโรคราสนิมในแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่สำคัญในเขตภาคเหนือของไทย พบว่า มีการระบาดของเชื้อราสนิมมากขึ้น ดังนั้น ในการพบกันครั้งนี้ จึงได้มีการหารือถึงความร่วมมือทางวิชาการในการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาเมล็ดกาแฟร่วมกัน
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการขยายตลาดสินค้าเกษตรระหว่างไทยและโปรตุเกส ซึ่งยังมีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โดยโปรตุเกสเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 81 ของไทย ซึ่งในระหว่างปี 2553-2555 การค้ารวมระหว่างไทยกับโปรตุเกสมีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 6,325 ล้านบาท จำแนกเป็นมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยปีละ 4,668 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 1,657 ล้านบาท โดยเป็นมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรเฉลี่ยปีละ 435 ล้านบาท ซึ่งทางเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปรตุเกสจะได้ประสานกับรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของโปรตุเกสเพื่อหาแนวทางความร่วมมือต่อไป