กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
รมว.พม. ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "Women Leaders for Building Nations of Peace"
ในการประชุมผู้นำสตรีเอเชีย
วันที่ ๑๓ ก.ย.๕๖ เวลา ๐๙.๓๐ น. นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมผู้นำสตรีเอเชีย เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๐ ปี สมาคมสหพันธ์สตรีเพื่อสันติภาพโลก (ประเทศไทย) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า ๒๐๐ คน จาก ๒๐ ประเทศ ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ
นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "Women Leaders for Building Nations of Peace" ว่า การประชุมครั้งนี้ฯ เป็นการจุดประกายผู้นำสตรี ในภูมิภาคเอเชีย ในการสร้างเครือข่ายของสตรีไทยและสตรีนานาชาติ เพื่อประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ ปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร การใช้ความรุนแรงในครอบครัว และการค้ามนุษย์ โดยปัญหาต่างๆ เหล่านี้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกสังคม และเป็นประเด็นที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากสถิติที่ได้รับจากการทำงานด้านเด็กและสตรีกว่า ๒๐ ปี พบปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กและสตรีมากที่สุด และตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้มอบนโยบายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ประชาชนตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จัดตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๒๔ ชั่วโมง OSCC โทร ๑๓๐๐" เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมใน ๔ ประเด็นปัญหาหลัก คือ ๑) การตั้งครรภ์ ไม่พร้อม (คุณแม่วัยใส) ๒) การค้ามนุษย์ ๓) แรงงานเด็ก และ ๔) ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการ ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกคือปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทุกประเทศ ที่ต้องจับมือกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ส่วนสถาบันครอบครัว เป็นสถาบันแรกที่มีความใกล้ชิด และมีบทบาทที่สำคัญในการดูแลสุขภาวะทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นสถานที่ปลูกฝังความรัก และสันติภาพ ให้เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งเด็กและเยาวชนที่เกิดจากครอบครัวที่อบอุ่น จะช่วยสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ ทำให้เด็กและเยาวชนเติบโตขึ้น เป็นผู้มีมโนธรรมและจิตสำนึกที่ดี อันจะส่งผลให้ชุมชนและสังคมสงบสุข การสร้างครอบครัวที่อบอุ่นจึงเป็นภูมิคุ้มกันที่สำคัญ ในการนำมาซึ่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน
นางปวีณา กล่าวต่อไปว่า สตรีมีส่วนสำคัญในการผลักดันและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในหลายๆ ด้าน ซึ่งการพัฒนาศักยภาพสตรีและเครือข่าย เพื่อเพิ่มบทบาทและสร้างภาวะผู้นำสตรี ในการช่วยเหลือสังคม พร้อมเฝ้าระวังดูแลปัญหาและช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ และการประกาศตั้งเครือข่ายเพื่อประสานความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย นับเป็นผลดี เพื่อประสานความร่วมมือและเป็นเครือข่ายการทำงานในการป้องกัน ช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
"ทั้งนี้ขอให้สตรีและบุรุษทุกคน ร่วมกันประสานความร่วมมือ สร้างสันติภาพอยู่อย่างสันติสุขในครอบครัว ชุมชน สังคม เพื่อพัฒนาประเทศชาติ และโลกตลอดไป" นางปวีณา กล่าวตอนท้าย.