กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ยังคงได้รับการตอบรับจากผู้คนนับพันที่สนใจอยากเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ ที่หลั่งไหลเข้าร่วมงาน “GRE@T DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี งานที่มอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่และเป็นโอกาสสำคัญที่คุณจะได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ จัดโดย มนต์ชัย เดโชจรัสศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย และ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ - อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด พร้อมทั้งได้พบกับ 6 บุคคลต้นแบบที่ประสพความสำเร็จกับธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ นำโดย ธนวัฒน์ เรืองสว่าง Area Executive Business Associate หนุ่มใหญ่ที่เริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์จากเงินติดตัวไม่กี่สิบบาท สู่อิสรภาพทางด้านรายรับที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง พร้อมไลฟ์สไตล์ชีวิตที่น่าอิจฉา
Area Executive Business Associate และยังเป็นผู้บริหารสโมสร 50 ล้านบาท ธนวัฒน์ เรืองสว่าง เผยว่า “เด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีพ่อซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ซื้อบ้านเล็กๆ หนึ่งหลัง บ้านที่ซื้อแต่ไม่เคยผ่อน จึงอาศัยบ้านแบบที่ไม่มีวันรู้ว่าจะโดนแบงค์ไล่ออกวันไหน ที่มหาวิทยาลัยทำให้ผมได้เข้าสู่วงการรถแข่งแรลลี่ เพราะมีเพื่อนฝูงที่บ้านมีฐานะชักชวน เมื่อเรียนจบก็ทำงานประจำ ที่บริษัทนำเข้าส่งออก ทุกอย่างกำลังดูเหมือนจะไปได้ดี แต่เมื่อเศรษฐกิจฟองสบู่แตกมาเยือน บริษัทผมก็โดนวิกฤตินี้เช่นกัน ในตอนนั้นผมตัดสินใจลาออก โดยมีความคิดว่า เป็นไงเป็นกัน ไปตายเอาดาบหน้า และก็สมใจเพราะไปตายเอาดาบหน้าจริงๆ ระหว่างนั้นผมก็ทำธุรกิจขายอุปกรณ์รถแข่ง ซึ่งก็มีรายได้ไม่มากครับ และก็ลองหันมาทำธุรกิจเครือข่ายที่ในยุคนั้นบูมมากๆ และก็ทำให้ผมได้รู้จักกับคุณเจอร์รี่ หลุย แต่สุดท้ายบริษัทเครือข่ายนั้นก็ปิดตัวลงไป หลังจากที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เป็นเวลาปีกว่าครับที่ผมเคว้งคว้างอยู่เช่นนั้น กระทั่งวันหนึ่งคุณเจอร์รี่ก็ติดต่อผมกลับมาอีกครั้ง และแนะนำให้ผมได้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ผมเป็นคนหนึ่งครับที่เคยปฏิเสธธุรกิจนี้ว่า ถ้าว่างแล้วจะไปนะ แต่คุณเจอร์รี่ก็คะยั้นคะยอบอกให้มาดูก่อน ไม่ดีก็ไม่ต้องทำ พอตัดสินใจมาดูธุรกิจ คุณเจอร์รี่ก็ไล่ให้ผมไปตรวจสภาพผิว เมื่อเห็นการทำงานของพนักงาน เห็นการอธิบาย ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมืออาชีพ จึงเริ่มสนใจและสมัครด้วยเงิน 600 บาท เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์กับยูนิลีเวอร์ทันที
เวลานั้นผมต้องใช้ความอดทนมากครับ เพราะไม่มีเงิน แต่มีความมุ่งมั่น เพราะเห็นความมั่นคง เห็นในวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มีความยิ่งใหญ่และยาวนาน ผมต้องขอเงินคุณแม่ครับ เงินไม่กี่สิบบาท ที่ใช้นั่งรถเมล์เดินทางมาที่เอสซีบี ปาร์ค เพื่อมาอบรมเข้าเทรนนิ่งต่างๆ ตั้งแต่การดูแลผิวพรรณ คิดดูครับผู้ชายที่อยู่ในแวดวงรถแข่งแรลลี่ แต่ต้องมาจับสำลีเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ ทำอย่างไรให้ผิวบอบช้ำน้อยที่สุด มันช่างเข้ากัน แต่เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ไปสักพัก คุณแม่ทักว่าหน้าตาดูดีขึ้น จึงเริ่มชวนให้แม่ลองใช้ผลิตภัณฑ์ พอแม่ดูดี ก็เริ่มมีคนทักแม่เริ่มมีคนสนใจในผลิตภัณฑ์ ไม่น่าเชื่อ
ครับทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ไป 2 ปี ผมก็เข้าสู่สโมสรเงินล้านเมื่อปี 2003 ในขณะที่ปีเดียวกัน ผู้ที่แนะนำให้ผมรู้จักกับธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์นี้ คุณเจอร์รี่ ก็เข้าสู่ทำเนียบผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน นั่งรถเบนซ์เข้ามาในงาน วันนั้นผมรู้สึกยินดีกับเขา แต่ในใจก็คิดว่าสักวันหนึ่งต้องเป็นเราบ้าง และในปี 2005 ผมเองก็ได้เข้าสู่ทำเนียบผู้บริหารสโมสร 10 ล้าน และเข้าสู่ทำเนียบสโมสร 30 ล้านในปี 2010 จนเวลานี้ผมอยู่ในทำเนียบผู้บริหารสโมสร 50 ล้านครับ
ผมทำงานหนักและทำอย่างต่อเนื่องครับ ใช้สินค้า แนะนำ ชวนคน ทำแบบนี้อยู่ตลอดเวลา ทำเช่นนี้จนมีเงินมากพอที่จะจัดงานแต่งงาน ทำจนมีเงินมากพอที่จะซื้อรถป้ายแดงได้ 2 คันในปีเดียวกัน ทำจนมีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านให้ภรรยา และมีมากพอที่จะซื้อบ้านให้พ่อให้แม่ได้อยู่ก่อนที่ท่านทั้ง 2 จะจากโลกนี้ไป บ้านที่ไม่ต้องหวั่นไหวว่าจะต้องเก็บของออกจากบ้านเมื่อไร และเวลานี้ผมได้ซื้อที่ดิน 1 ไร่ พร้อมปลูกบ้านขนาดใหญ่ไว้ที่เชียงใหม่ มีเรือนรับรองไว้สำหรับเพื่อนฝูง ธุรกิจนี้ไม่เพียงช่วยให้เรามีรายได้มหาศาล แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้เห็นโลกที่กว้างขึ้น กับทริปท่องเที่ยวที่บริษัทจัดให้ โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินอะไรใดๆ เลย ผมไปมาหลายทริปในหลายๆ ประเทศครับ ทั้งในแถบสแกนดิเนเวีย ยุโรป หรือในเอเชีย นับเป็นกำไรชีวิตเป็นรางวัลที่ตอบแทนให้กับการทำงานที่ทุ่มเท
แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าผมได้จริงๆ จากการทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ คือไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ผมเลือกเองได้ ผมสามารถเดินตามความฝันของผม โดยไม่ต้องทำงานได้เป็นเดือนๆ ผมชอบเรื่องราวของรถยนต์ ยนตรกรรมต่างๆ ที่ทันสมัย ผมพาภรรยาผมได้เที่ยวงานมอเตอร์โชว์ครับ แต่เป็นโตเกียว มอเตอร์โชว์ และเพราะชอบรถยนต์ ชอบการเดินทาง ผมเคยขับรถไปกับภรรยาเป็นระยะทาง 12,000 กิโลเมตร จากประเทศไทยไปทิเบต ไปจนถึงจุดที่สูงที่สุด ยืนชื่นชมยอดเขาเอเวอร์เรส โดยไม่เปิดโรมมิ่งเพื่อติดต่อธุรกิจใดๆ แต่เพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันสิครับ ต้องคอยติดต่อกลับมาที่เมืองไทยเพื่อถามเรื่องธุรกิจของตัวเองเป็นระยะๆ ทริปนั้นเป็นทริปที่สุข สนุก เวลา 1 เดือน แต่ใช้จ่ายหมดไป 4 แสนบาท แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า ผมกลับมาผมได้รับเงินจากการทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์นี้ ทั้งที่ผมไปเที่ยวมา 1 เดือนเต็ม เป็นจำนวนเงิน 1 ล้าน 4 หมื่นกว่าๆ หลายครั้งครับที่ผมเดินทางเช่นนี้ ไม่ว่าจะขับรถไปพม่า ไปอินเดีย และอนาคตอันใกล้ที่วางแผนไว้ ผมจะขี่จักรยานเข้ายุโรปครับ ซึ่งมีคนทำได้แล้ว แต่คนที่ทำได้ล้วนอยู่ในวัยเกษียณ แต่ผมจะเป็นคนแรกที่ไม่ได้อยู่ในวัยเกษียณ แต่มีเวลามากพอที่จะขี่จักรยานเข้ายุโรป โดยไม่กระทบทั้งเรื่องงานและรายได้ พร้อมกับฝันต่อไปที่ผมอยากได้เหลือเกิน กับผู้ชายที่ชอบยนตรกรรมอย่างผม สักครั้งหนึ่งกับการได้เป็นเจ้าของ Porsche Carrera S ขอเพียงแค่มีความฝัน ฝันให้ใหญ่ และตอกย้ำความฝันนั้น ด้วยการทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์อย่างจริงจัง ให้เหมือนกับการ ตอกเสาเข็มเพื่อความมั่นคง เพราะธุรกิจนี้จะทำให้คุณสบาย และยังเป็นความสบายแบบยั่งยืนอีกด้วย เมื่อผมทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกันครับ”
เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความสำเร็จจากผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ในงาน “GRE@T DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ที่มาร่วมแชร์แบ่งปันเส้นทางสู่ความสำเร็จ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะอาวียองซ์เชื่อว่า “เราทำได้ คุณทำได้”
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2619-0429 ถึง 30 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์