กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--กรมพัฒนา
ปัจจุบันเกษตรกรได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการผลิต จากที่มีการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นปัจจัยหลัก มาเป็นการนำเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นาผลิตเป็นสารอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์ และสารชีวภาพ รวมทั้งใช้จุลินทรีย์เป็นปัจจัยการผลิตมากขึ้น เนื่องจากปุ๋ยเคมีมีราคาสูงขึ้น และราคาไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงตามราคา น้ำมันโลก นอกจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ซึ่งเน้นในการเพิ่มอินทรียวัตถุในดินแล้ว การใช้ปุ๋ยชีวภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งช่วยในการเพิ่มธาตุอาหารในดิน ซึ่งเป็นปุ๋ยที่ได้จากการนำจุลินทรีย์ที่มีชีวิตที่สามารถสร้างธาตุอาหาร หรือช่วยให้ธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์กับพืชมาใช้ในการปรับปรุงบำรุงดิน ทางด้านชีวภาพ ทางกายภาพ หรือทางชีวเคมี และให้หมายรวมถึงหัวเชื้อจุลินทรีย์ด้วย
นางกุลรัศมิ์ อนันต์พงษ์สุข รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านวิชาการ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาที่ดิน ได้ศึกษาวิจัยและพัฒนาปุ๋ยชีวภาพ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และผลผลิตทางการเกษตร โดยได้แยกและคัดเลือกจุลินทรีย์ 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแบคทีเรียสร้างสารเสริมการเจริญเติบโตของพืชหรือฮอร์โมนพืช กลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้ธาตุไนโตรเจน กลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้ธาตุฟอสฟอรัส และกลุ่มจุลินทรีย์ที่ให้ธาตุโพแทสเซียม และได้ดำเนินการศึกษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 เพื่อเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว อ้อย ข้าวโพด มันสำปะหลัง พืชผัก ปาล์มน้ำมัน และยางพารา
ซึ่งปัจจุบันได้ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์แบบแห้งบรรจุถุงละ100 กรัม โดยใช้ชื่อว่า ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ช่วยสร้างธาตุอาหารพืช สร้างฮอร์โมนส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช ช่วยในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และลดการใช้ปุ๋ยเคมีให้น้อยลง เพื่อให้บริการแจกจ่ายให้กับเกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งประโยชน์ของปุ๋ยชีวภาพ พด.12 สามารถเพิ่มปริมาณไนโตรเจนในดิน 3 — 5 กิโลกรัม /ไร่/ ปี เพิ่มการละลายหินฟอสเฟต 15 — 45 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มการละลายของโพแทสเซียมเฟลด์สปาร์ 10 เปอร์เซ็นต์ สร้างฮอร์โมนกระตุ้นการงอกของราก และการเจริญเติบโตของพืช ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ 25 — 30 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดใช้ธาตุอาหาร เพิ่มผลผลิต 10 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 เป็นผลงานวิจัยของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพทางดิน โดยกรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานที่เป็นต้นแบบ ให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นำไปขยายผลหรือต่อยอดได้ และที่สำคัญคือการให้บริการเกษตรกรเพื่อเป็นการสนับสนุนปัจจัยการผลิต ซึ่งได้ดำเนินการโครงการส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร / เกษตรอินทรีย์ รวมทั้งรับผิดชอบโรงปุ๋ยชีวภาพชุมชน โดยส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตปุ๋ยอินทรีย์ สารชีวภาพ ใช้เองภายในกลุ่ม เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูง น้ำหมักชีวภาพ เกษตรกรสามารถนำไปขยายเชื้อในปุ๋ยหมักและรำข้าว เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพจากปุ๋ยหมักที่ใช้ปรับปรุงบำรุงดินอย่างเดียวแต่ยังช่วยเพิ่มธาตุอาหารพืชด้วย ซึ่งเกษตรกรบางกลุ่มมีการผลิตจำนวนมาก เมื่อใช้เองในกลุ่มแล้วมีการกระจายไปสู่ชุมชนใกล้เคียง เกิดการใช้ประโยชน์ทั้งในพื้นที่และขยายสู่ชุมชนอื่น เกิดรายได้สู่ชุมชน ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน เกษตรกรมีรายได้นอกจากการปลูกพืช
จากความสำเร็จในการค้นคว้าวิจัยปุ๋ยชีวภาพ พด.12 ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เกษตรกร ทำให้กรมพัฒนาที่ดิน ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการโครงการวิทยาศาสตร์สู่ความเป็นเลิศ พ.ศ. 2556 โดยนางกุลรัศมิ์ อนันต์พงษ์สุข รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านวิชาการ ได้เป็นผู้แทนกรมพัฒนาที่ดินเข้ารับใบประกาศเกียรติคุณ ฯ ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2556
ทั้งนี้เกษตรกรท่านใดที่สนใจ ขอรับ ปุ๋ยชีวภาพ พด.12 เพื่อนำไปใช้ในการฟื้นฟูปรับปรุงบำรุงดิน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือขอรับบริการได้ที่สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด ทั่วประเทศ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขตทั้ง 12 เขต และส่วนกลางที่กรมพัฒนาที่ดิน เบอร์โทร. 1760 หรือเข้าไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ website ของ กรมพัฒนาที่ดิน www.ldd.go.th