กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น เพิ่มไลน์ธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯและศิลปินในสังกัด ประเดิมขาย Licensing ศิลปินเบอร์หนึ่งของค่าย “แดน-บีม” ลงในผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ในชีวิตประจำวัน “ประสงค์ รุ่งสมัยทอง” ย้ำ เป็นครั้งแรกของวงการบันเทิงไทย ที่ต้นสังกัดวางแผนการตลาดอย่างเป็นระบบเพื่อสร้าง Value ให้กับศิลปินในสังกัดในระยะยาว
นายประสงค์ รุ่งสมัยทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์. เอส. โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ RS เผยว่า จากการเป็นบริษัทเอ็นเตอร์เม้นท์ชั้นนำของประเทศที่ดำเนินธุรกิจบันเทิงครบวงจรด้วยการมีศิลปินนักร้อง-ดาราในสังกัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถต่อยอดจากธุรกิจเดิมที่มีอยู่ทุกแขนงด้วยธุรกิจ licensing โดยได้มีการวางแผนการตลาดและพัฒนารูปแบบของ Artist License เพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคชั้นนำทั่วไป ได้นำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์นั้นๆ และสำหรับบริษัทฯก็เป็นการสร้างการจดจำให้กับศิลปินของสังกัดในระยะยาวอีกด้วย
“เป็นการต่อยอดทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ และสร้างให้ศิลปินมีรายได้ที่ยั่งยืนจากชื่อเสียงและผลงานความสามารถของตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่จะทำเรื่อง Licensing ให้สำเร็จได้ต้องมีการวางแผนการตลาดในระยะยาวของศิลปินแต่ละกลุ่มให้มีความชัดเจน ต้องรู้ว่าศิลปินกลุ่มนี้จะเป็นตัวแทนของผู้บริโภคกลุ่มใด Value ของพวกเค้าอยู่ที่ไหน อะไรคือ Unique Selling Point, Positioning ของพวกเขาคืออะไร และเมื่อทราบทุกอย่างแล้วก็ต้องชัดเจนในแนวทางการตลาดไม่แกว่งไปแกว่งมา จึงเป็นการทำงานที่เป็นการวางแผนในระยะยาว” นายประสงค์ รุ่งสมัยทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์. เอส.ฯ กล่าวและอธิบายลักษณะของธุรกิจนี้ว่า
R.S. Licensing เริ่มจากแนวความคิดที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับศิลปิน โดยเริ่มจากศึกษาตลาดด้วยวิธีการวิจัยตลาดเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของตลาด (Consumer Research) เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วก็นำมาพัฒนาให้เป็น Artist Licensing Guide Book และทำการคัดเลือกบริษัทผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพ เพื่อมอบสิทธิ์ให้กับผู้ผลิตนั้นๆไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อนำออกวางจำหน่ายแก่สาธารณะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับผลิตภัณฑ์นั้นๆเอง ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการเพิ่มช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯอีกด้วย เพราะเป็นการบริหารจัดการที่เป็นการต่อยอด Asset เดิมที่มีอยู่ให้เกิดช่องทางของรายได้เพิ่มมากขึ้น
บทบาทของการขายลิขสิทธิ์นั้นจะมีในรูปแบบของการเป็น Merchandising licensing ที่เป็นการสร้างลักษณะพิเศษเฉพาะของศิลปิน และนำไปขายสิทธิให้กับผู้ผลิตฯ ซึ่งก็จะนำไปผลิตเป็นสินค้าจำหน่ายออกมา
โดยครั้งแรกขายลิขสิทธิ์กับศิลปินเบอร์หนึ่งในสังกัดอย่าง “แดน-บีม” ให้กับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอย่าง บริษัท คราว เซรามิก จำกัด, บริษัท เครื่องนอนโลตัส จำกัด และบริษัทไทยวัฒนาพานิช จำกัด เพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้า โดยออกผลิตภัณฑ์เป็นแก้วมัก (Mug) ดีไซน์ใหม่ และรูปแบบของเครื่องนอนต่างๆ รวมถึง Stix-it ลายแดน-บีม
นายประสงค์ กล่าวว่า บริษัทฯ จะเป็นเพียงผู้บริหาร License เท่านั้น ส่วนการทำตลาดของแต่ละผลิตภัณฑ์นั้นจะเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตสินค้าเอง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะทำการสนับสนุนทางด้านของการสร้าง Perception Value ของศิลปินให้เกิดกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของศิลปินนั้นๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำ Brand ของศิลปินเองและเป็นการเพิ่มโอกาสทางการจัดจำหน่ายให้กับพันธมิตรทุกท่านที่ได้รับสิทธิ์ไป
นายประสงค์ กล่าวอีกว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของธุรกิจที่อาจจะดูใหม่สำหรับธุรกิจเอนเตอร์เทนเม้นท์ในบ้านเรา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียจนคนไม่รู้จัก เพียงแต่อาร์.เอส.ฯเล็งเห็นและดำเนินการก่อน เชื่อว่าครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นตลาด Licensing ในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คงมีความเคลื่อนไหวของหลายๆบริษัทออกมาให้เห็นแน่ ไม่ช้าก็เร็ว ซึ่งตนเองถือว่าเป็นการดีที่จะได้มีคนมาคอยช่วยกระตุ้นตลาดนี้ น่าจะทำให้ตลาดโตขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ประชาสัมพันธ์องค์กร บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-511-0555 ext. 760-763,774
ณัชชา (เอ) 01-616-1288 สร้อยนภา 01-855-3920
ธิดารัตน์ (แอปเปิ้ล) 01-557-0430 สุวริน (กิ๊ป) 01-829-6449
สามารถคลิกดูภาพข่าวได้ที่ www.thaipr.net--จบ--