กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. เป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมร่วมกับผู้ประกอบการไทย “โครงการนวัตกรรมข้าวไทย” เป็นหนึ่งในโครงการที่ สนช. ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาข้าวไทยที่มีคุณภาพและครองความเป็นหนึ่งในตลาดโลก โดยให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างบูรณาการทั้งระบบ รวมถึงการส่งเสริมและปลูกจิตสำนึกกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยให้เกิดความตื่นตัวและใฝ่หาความรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากคุณประโยชน์ด้านต่างๆ ของข้าวให้มีความหลากหลาย และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลกในปัจจุบันมากขึ้น อันจะเป็นการสร้างมูลค่าของข้าวไทยให้เกิดขึ้นในประเทศอย่างยั่งยืน
นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่า “ที่ผ่านมาได้สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมในข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง จำนวน 34 ผลงาน เช่น สารเพิ่มปริมาตรในเม็ดยา แป้งพัฟจากข้าวหอมมะลิ กะทิธัญพืช ครีมเคลือบเงาเอนกประสงค์จากน้ำมันรำข้าวอินทรีย์ น้ำเชื่อมออร์แกนิกจากข้าวไทยพื้นเมือง ชุดครีมบำรุงผิวสารสกัดจากข้าวกล้อง ฯลฯ คิดเป็นมูลค่าการสนับสนุนรวม 27.83 ล้านบาท ก่อให้เกิดการลงทุนรวมกว่า 318.33 ล้านบาท รวมถึงการจ้างงานใหม่ การขยายโอกาสของการเพิ่มมูลค่าให้แก่ข้าวอันเป็นสิ่งที่สามารถสร้างผลประโยชน์ในวงกว้างตลอดห่วงโซ่อุปทานของข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
การปรับกลยุทธ์ในการผลิตข้าวเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าว การใช้นวัตกรรมเข้าไปแทรกแซงในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมข้าว จึงเป็นหนึ่งความท้าทายของประเทศที่จะสามารถสร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งและแตกต่างให้กับข้าวไทย การสร้างนวัตกรรมจึงเป็นทางออกในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ และยังเป็นการสร้างช่องทางการตลาดใหม่ ที่ยังไม่มีคู่แข่งขัน เปลี่ยนการแลกสินค้าที่นำเข้าประเทศด้วยข้าวเป็นตัน ให้เหลือเพียงไม่กี่กรัม และมีมูลค่ามหาศาล”
“สนช. ได้ดำเนินกลไกการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมข้าวไทยตลอดทั้งห่วงโซ่ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ผ่านกลไกการสนับสนุนเงินอุดหนุนภายใต้โครงการ “แปลงเทคโนโลยีเป็นทุน” และ “นวัตกรรมดี...ไม่มีดอกเบี้ย” โดยมีกลุ่มเป้าหมายการส่งออกอยู่ที่ยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อ และตื่นตัวในการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกอุตสาหกรรม และยังรวมไปถึงการใช้พลังงานทดแทนจากชีวมวล คาดว่าสามารถเพิ่มมูลค่าให้ข้าวไทยจากการที่ขายข้าวสารได้ประมาณ 100,000 ล้านบาท ข้าวจะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 500,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ริเริ่มการจัดตั้ง “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมข้าวไทย (RICE: Rice Innovation Center of Excellence)” เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมโยงภาคการผลิต ภาควิชาการ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการตลาด และภาคการเงินและการลงทุน ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการงานนวัตกรรมข้าวไทยแบบครบวงจร ซึ่งนับเป็นอีกก้าวของความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทย เติบโตควบคู่ไปกับภาคเกษตรกรไทยที่ต้องได้รับการสนับสนุนและขับเคลื่อนจากภาครัฐในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่และการวิจัย เข้าไปช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริม เพื่อให้ข้าวไทยซึ่งมีคุณภาพและคุณค่ามีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีไปทั่วโลก”
ติดต่อ:
ณัฐพร สิงห์แดง pok_pong13@windowslive.com