กระทรวงการคลัง เสริมศักยภาพ SMEs ไทยด้วย “คลินิกภาษี” กระทรวงการคลัง เสริมศักยภาพ SMEs ไทยด้วย “คลินิกภาษี”

ข่าวทั่วไป Thursday September 19, 2013 11:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--โอเพ่นมายด์ “ไม่รู้ว่าจะต้องเสียภาษีอย่างไร และเสียภาษีอะไรบ้าง?” เป็นคำถามยอดฮิตของผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ๆ ที่จะต้องเผชิญกับปัญหา “การจัดการระบบภาษี” ในประเภทธุรกิจต่างๆ ของตนเองที่ดำเนินอยู่ เพราะองค์ความรู้หรือข้อมูลด้านภาษีในปัจจุบันยังขาดความเชื่อมโยงกันจากทั้ง 3 หน่วยงานจัดเก็บภาษี คือกรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ทำให้เกิดทัศนคติและความเชื่อในเรื่องของภาษีไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง มีเจ้าของกิจการจำนวนไม่น้อยที่ไม่กล้าเข้าสู่ระบบภาษี เพราะกลัวว่าจะถูกเรียกเก็บภาษีที่คิดเอาเองว่า “โหด” จนอาจต้องขาดทุน บางรายมีความตั้งใจนำธุรกิจของตนเองเข้าสู่ระบบ แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหา “เสียภาษีไม่ครบถ้วน” ต้องมาโดนค่าปรับหรือเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และเสียความรู้สึก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการต่อระบบภาษีของประเทศ แต่ปัจจุบันปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อ “กระทรวงการคลัง” ได้พัฒนานวัตกรรมการให้บริการข้อมูลความรู้และคำปรึกษาด้านระบบภาษี “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” โดยมุ่งเน้นบูรณาการให้ความรู้ภาษีธุรกิจจาก 3 กรมภาษีแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไทยในการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการคณะกรรมการกำกับ ติดตามและประเมินผลโครงการคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคลินิกภาษีได้รวบรวมองค์ความรู้จาก 3 กรมจัดเก็บภาษี มาไว้ ณ จุดเดียว ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับภาคเอกชนในเข้าถึงองค์ความรู้เรื่องภาษีผ่านทางช่องทางต่างๆ ทันสมัย ที่สำคัญยังช่วยลดโอกาสของความผิดพลาดในการทำระบบภาษีของธุรกิจ ที่อาจจะต้องเสียค่าปรับจำนวนมาก “กระทรวงการคลังมุ่งหวังว่าเมื่อผู้ประกอบการเข้าใจในระบบภาษีอย่างแท้จริง จะเห็นประโยชน์ของการเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งล้วนแล้วแต่มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ไม่ว่าจะเป็นการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม สิทธิพิเศษด้านภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เพราะหากต้องกังวลกับการหลบเลี่ยงภาษี ก็คงไม่สามารถที่จะขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่” นายพงษ์ภาณุกล่าว “นภาวรรณ ทรงประเสริฐกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ด อินดัสทรี เน็ทเวอร์ค จำกัด เจ้าของอาหารเพื่อสุขภาพ “แฟมิลี่ ทรี” ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารประเภท เส้นหมี่ พาสต้า สปาเกตตี้ จากข้าวออร์แกนิค ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจด้านอาหารเพื่อสุขภาพ มีตลาดที่เติบโตทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ ธุรกิจที่มีความน่าสนใจ และได้ถูกรวบรวบข้อมูลและองค์ความรู้ด้านภาษีธุรกิจที่เกี่ยวข้องไว้ใน “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” เปิดเผยว่า นอกจากจะมีแนวคิดในการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมุ่งเน้นการทำธุรกิจอย่างโปร่งใส และมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการทำหน้าที่เป็นผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง “นอกจากจะใช้บริการวางระบบบัญชีและภาษีผ่านบริษัทที่ผู้เชี่ยวชาญแล้ว เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เรายังเลือกใช้บริการสอบถามข้อมูลด้านระบบภาษีผ่านระบบคอลล์เซ็นเตอร์ 1689 เพื่อไขข้อสงสัยต่างๆ ในเรื่องของภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี ได้เปิดคลินิกภาษี โดยมีบริการให้คำปรึกษาด้านภาษีที่สำนักงานของหน่วยงานทั้ง 3 กรมจำนวน 268 แห่ง ทั่วประเทศ รวมไปถึงช่องทางที่เข้าถึงคนที่ใช้โซเซียลมีเดียนั่นก็คือ www.facebook.com/TaxClinicMOF หรือ คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง ก็จะยิ่งช่วยทำให้เข้าถึงข้อมูลและความรู้ต่างๆ ด้านภาษีธุรกิจของผู้ประกอบการเป็นไปได้อย่างถูกต้อง สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น” คุณนภาวรรณกล่าว ปัจจุบัน “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจไว้อย่างละเอียดจำนวน 55 ธุรกิจ และอยู่ในระหว่างการเพิ่มเติมข้อมูลกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับธุรกิจต่างๆ ได้ที่ เวบไซต์คลินิกภาษี http://taxclinic.mof.go.th รวมทั้งยังเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านภาษีให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นผ่าน Mobile Application สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ต ทั้งในระบบ i-OS และ Android สามารถเข้าไปดาวน์โหลด Application Tax Clinic ได้จาก App Store และ Google Play รวมถึงการเชื่อมโยงกับ Social Network เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาระบบการให้บริการที่เรียกว่า E-appointment หรือ ระบบนัดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอนัดรับคำปรึกษาเรื่องภาษีจากผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 3 กรมภาษีได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะมี “หมอภาษี” ประจำอยู่ ณ จุดให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ จำนวน 268 จุดทั่วประเทศของทั้ง 3 หน่วยงาน และยังมี Call Center 1689 อีก 10 คู่สาย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการประชาชน ในการติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง “อยากให้ทุกบริษัทให้ความสำคัญของระบบภาษี พร้อมทั้งหาความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับภาษี ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินธุรกิจให้มีศักยภาพ เพราะหากไม่รู้ข้อกฎหมายและภาษี อาจทำให้ธุรกิจขาดศักยภาพในการแข่งขันได้ และในกรณีที่มีปัญหาควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนั่นก็คือกรมสรรพากรหรือหน่วยงานภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้ได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้อง ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและสามารรถเติบโตได้อย่างมั่นคง” กรรมการผู้จัดการ บ.ฟู้ด อินดัสทรีฯ ระบุ “คลินิกภาษีฯ จะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการด้านความรู้ภาษีอากร โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยลดภาระการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของภาคเอกชนให้ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อผู้ประกอบการมีความรู้และความเข้าใจในระบบภาษีอย่างแท้จริง ก็จะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนลดต่ำลง มีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีของ AEC ที่กำลังจะเกิดการเชื่อมโยงกันในด้านเศรษฐกิจของสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ” นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ