กรุงเทพฯ--19 ก.ย.--โอเพ่นมายด์
“จ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านบัญชีมาทำเรื่องระบบภาษีให้” เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบธุรกิจหน้าใหม่หลายแห่งดำเนินการ เพราะมีพื้นฐานความคิดและทัศนคติที่ไม่ดีต่อ “ระบบภาษี” ที่มีความยุ่งยากซับซ้อน เนื่องจากที่ผ่านมาข้อมูลภาษีของภาครัฐที่ประกอบไปด้วย กรมสรรพากร กรมศุลกากร และกรมสรรพสามิต ยังกระจัดกระจายและไม่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน
แต่ปัจจุบัน “กระทรวงการคลัง” ได้พัฒนานวัตกรรมการให้บริการข้อมูลความรู้และคำปรึกษาด้านระบบภาษี “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” โดยมุ่งเน้นบูรณาการให้ความรู้ภาษีธุรกิจจาก 3 กรมภาษีแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไทย
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคลินิกภาษีได้รวบรวมองค์ความรู้จาก 3 กรมจัดเก็บภาษี มาไว้ ณ จุดเดียว และสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลภาษีธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านช่องทางที่ทันสมัยที่ เว็บไซต์คลินิกภาษี http://taxclinic.mof.go.th และผ่าน Mobile Application เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านภาษีได้ทุกที่ทุกเวลา
“คลินิกภาษี กระทรวงการคลังจะเป็นศูนย์กลางในการให้บริการด้านความรู้ภาษีอากร โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยลดภาระการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของภาคเอกชนให้ต่ำสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อผู้ประกอบการมีความรู้และความเข้าใจในระบบภาษีอย่างแท้จริง ก็จะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนลดต่ำลง และมีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น” รองปลัดกระทรวงการคลังระบุ
คุณธัญญ่า วนัสพิทักษกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาฉุยฟง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายใบชาคุณภาพดีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวคือเป็นผู้ปลูกและผลิตใบชาเพื่อส่งขายให้กับบริษัทต่างๆ ต่อมาจึงได้มีแนวคิดในการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบของตนเอง ด้วยการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จากใบชารูปแบบต่างๆ ในแพ็คเกจที่มีความทันสมัยและสอดรับกับกระแสเรื่องของสุขภาพและความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
“ที่ผ่านมาเราใช้บริการของบริษัทที่รับทำบัญชี ที่ไม่ได้มีความรู้ด้านธุรกิจใบชาโดยเฉพาะทำให้พบกับปัญหาการเสียภาษีซ้ำซ้อน และไม่เคยทราบว่ามีการยกเว้นพิกัดภาษีหลายๆ อย่างสำหรับการผลิต นำเข้าหรือส่งออก แต่เมื่อได้ทราบว่ามีคลินิกภาษี กระทรวงการคลังขึ้น ก็ได้เข้าไปใช้บริการแล้วก็พบว่าธุรกิจใบชานั้นมีภาษีหลายๆ อย่างที่ได้รับการยกเว้น สามารถขอโค้วต้าการนำเข้าใบชาโดยได้รับการยกเว้นภาษีได้ รวมไปถึงการกู้เงินจากธนาคารที่สามารถนำดอกเบี้ยไปลดหย่อนภาษีได้ และที่มีประโยชน์สำหรับเจ้าของกิจการก็คือระบบการให้คำปรึกษา ที่สามารถนัดออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาที่จะช่วยให้เราสามารถเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของภาษีที่เกี่ยวข้องได้มากยิ่งขึ้น” คุณธัญญ่าระบุ
คุณศรีวรรณา เลาหตีรานนท์ เจ้าของ หจก. แอลทีเอ็น วัสดุภัณฑ์ ผู้ส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างทุกชนิดไปยังประเทศลาวรายใหญ่ของอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เล่าว่าถึงแม้ว่าธุรกิจของตนเองนั้นจะไม่ได้ถูกรวบรวมไว้ในคลินิกภาษีกระทรวงการคลัง แต่การที่ได้เข้าศึกษาหาข้อมูลของภาษีธุรกิจอื่นๆ นั้นก็ทำให้เราได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้น และสามารถต่อยอดกับธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ได้
“ข้อมูลภาษีเป็นความรู้ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรศึกษาไว้ เพราะเมื่อก่อนกว่าที่เราจะรู้เรื่องระเบียบภาษีของกรมต่างๆ ได้ก็ต้องเข้าไปถามจากทุกหน่วยงาน แต่ปัจจุบันถูกรวบรวมไว้ที่เดียว และสามารถเปิดดูได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา มีข้อมูลทั้งหมดของการเสียภาษี รวมไปถึงกฎระเบียบการนำเข้าหรือส่งออก ซึ่งเรื่องของภาษีนั้นถ้าเราคิดแบบโบราณคือไม่เสียหรือเลี่ยงภาษี ธุรกิจจะไม่มีทางเติบโตได้ เพราะต้องคอยกังวลกับการถูกตรวจสอบ ต้องทำธุรกิจอย่างหลบเลี่ยง อย่างที่ร้านทุกอย่างเราออกใบกำกับภาษีอย่างถูกต้อง ตัวเลขและจำนวนสินค้าต่างๆ ที่เราขายไปทั้งหมดในแต่ละปี ก็จะทำให้เราสามารถไปต่อรองจากผู้แทนจำหน่ายที่มีหลายราย ทำให้เราได้ซื้อสินค้าเข้ามาในราคาที่ถูกขึ้น เป็นประโยชน์ของการเสียภาษีอย่างถูกต้องอีกด้านหนึ่ง” คุณศรีวรรณากล่าว
ปัจจุบัน “คลินิกภาษีกระทรวงการคลัง” ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับการประกอบธุรกิจต่างๆ ที่น่าสนใจไว้อย่างละเอียดจำนวน 55 ธุรกิจ และอยู่ในระหว่างการเพิ่มเติมข้อมูลกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภาษีสำหรับธุรกิจต่างๆ ได้ที่ เวบไซต์คลินิกภาษี http://taxclinic.mof.go.th รวมทั้งยังเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านภาษีให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นผ่าน Mobile Application สำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ต ทั้งในระบบ i-OS และ Android สามารถเข้าไปดาวน์โหลด Application Tax Clinic ได้จาก App Store และ Google Play รวมถึงการเชื่อมโยงกับ Social Network เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาระบบการให้บริการที่เรียกว่า E-appointment หรือ ระบบนัดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอนัดรับคำปรึกษาเรื่องภาษีจากผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 3 กรมภาษีได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะมี “หมอภาษี” ประจำอยู่ ณ จุดให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ จำนวน 268 จุดทั่วประเทศของทั้ง 3 หน่วยงาน ที่จะสามารถให้คำปรึกษาแบบลงลึกถึงในรายละเอียดของธุรกิจประเภทต่างๆ ที่ยังไม่ได้ถูกรวบรวมไว้ในเบื้องต้น และยังมี Call Center 1689 เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ประกอบการประชาชน ในการติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง
“นอกจากองค์ความรู้ด้านภาษีที่ถูกรวบรวมไว้ในคลินิกภาษี กระทรวงการคลังแล้ว เรายังมีหมอภาษีอีก 268 คนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ผู้ประกอบการสามารถนัดหมายขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการธุรกิจประเภทต่างๆ นอกเหนือไปจากที่ได้รวบรวมไว้ได้ทุกประเภทภาษี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไปที่ไหนก็ได้ที่ใกล้ที่สุดก็สามารถปรึกษาขอความรู้ด้านภาษีได้ทั้ง 3 กรมในที่เดียว นอกจากนี้ กระทรวงการคลังกำลังพัฒนารูปแบบการให้บริการของคลินิกภาษีฯ ให้สอดคล้องกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในภาษาอังกฤษ และการเพิ่มข้อมูลภาษีธุรกิจที่สอดคล้องกับภูมิภาคต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต” รองปลัดกระทรวงการคลังกล่าวสรุป.