กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,362 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,373 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.89 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,900 บาท กับ 20,000 บาท และกลับมาปิดที่ 19,950 บาท กับ 20,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,694 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,659 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3.5% แบบ 10 บาท ลดลง 2.7 % GFV13 ปิด 20,110 บาท และGFZ13 ปิด 20,180 บาท GF10V13 ปิด 20,100 บาท GF10Z13 ปิด 20,180 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 61.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,369.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 1.728 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 23.292 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 912 ตัน (ซื้อเข้า 0.88 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 106.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 40.39 จุด ปิดที่ 15,636.55 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อวานนี้ หลังจากที่เฟดยังคงมาตราการเดิมเพื่อรักษาการเข้าซื้อพันธบัตรต่อไป แม้ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานจะออกมาดีขึ้นก็ตาม
SPDR ซื้อเพิ่ม 0.88 ตัน ปัจจุบันคงทองที่ 912 ตัน
โกลด์แมน แซคส์ ออกมากล่าวว่า การตัดสินใของเฟดยังคงสร้างความเสี่ยงต่อราคาทองคำ เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นนี้เป็นเพียงระยะสั้น และยังยืนยันการคาดการณ์เดิมว่าราคาจะปรับตกลงอีกครั้งในปี 2014
ผลสำรวจจาก Bloomberg พบว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมองทองคำในทิศทางขาขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยยังได้รับแรงสนับสนุนจากการตัดสินใจล่าสุดของเฟด
ความคลุมเครือในเรื่องงบประมาณสหรัฐและเพดานหนี้ที่กำลังจะมีการหารือกันจะกลายเป็นประเด็นถัดไปที่ตลาดให้ความสนใจ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่คนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้น
ตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน ปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยเมื่อวานฮั่งเส็งปิดตลาดปิดบวก 1.7%
นิกเกอิปิดตลาดแตะระดับสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์ และเช้านี้เปิดบวก จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 294 Kตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 331K ตัวเลขจริงที่
ออกมาอยู่ที่ระดับ 309 K
- Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.39M ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 5.27M ตัวเลขจริงที่
ออกมาอยู่ที่ระดับ 5.48 M
- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 9.3 ตั วเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 10.2 ตัวเลขจริงที่
ออกมาอยู่ที่ระดับ 22.3
- Current Account ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -105 B ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -96B ตัวเลขจริงทิ่กมาอยู่ที่ระดับ -99B
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- ไม่มีตัวเลขเสรษฐกิจ
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่เฟดตัดสินใจไม่ลด QE ในเดือนนี้ ซึ่งมีผลทำให้ราคาทองคำดีดขึ้นถึง 60 เหรียญทันที และไปทำจุดสูงสุดเมื่อวานประมาณ 1,375 เหรียญ อย่างไรก็ดีราคาทองคำในเช้าวันนี้ปรับตัวลดลงมาอยู่บริเวณ 1,363 เหรียญ จากข่าวการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนออกมาค่อนข้างดี อันได้แก่ Existing Home Sales และ Philly Fed Manufacturing Index ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้างน้อย โดยที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงหลังจากที่เมื่อวานแข็งค่าขึ้น อย่างรวดเร็วจนหลุด 31.00 บาท/ดอลลาร์ ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ 30.93 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้ปรับอ่อนขึ้นมาที่ 31.08 บาท/ดอลลาร์ วันนี้จะไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจอีก และเมื่อวาน SPDR มีการเข้าซื้อเพียงเล็กน้อย 0.88 ตัน ภาพรวมของทองคำในระยะสั้นยังดูแนวโน้มเป็นการขึ้นแค่ระยะสั้นเท่านั้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพหลักๆ ในระยะสั้นเป็นเพียง Technical Rebound ถ้าราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือ 1,390 เหรียญได้ ก็จะปรับตกลงไปที่เดิม ในระยะกลางและระยะยาวยังเป็นแนวโน้มขาลง คาดว่าวันนี้แนวต้านจะอยู่ที่ 1,370 เหรียญ แนวรับจะอยู่ที่ 1,340 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นกลยุทธ์ในเชิงแนวโน้มขาลง โดยในระยะสั้นนักลงทุนอาจจะเก็งกำไรในกรอบแคบตามการแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านที่ได้ให้ไว้ระหว่าง 1,340 — 1,370 เหรียญ ยังวิเคราะห์โดยภาพรวมเป็นแนวโน้มขาลงเช่นเดิม
นักลงทุนที่ถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position
- ให้ขายทำกำไรตามสถานะ โดยไม่ใช้ Leverage สูงนัก
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,120 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,320 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,420 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง