กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย
สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เชิญผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ร่วมงานสัมมนา.....ผู้ประกอบการก่อสร้างกับการปรับตัวในภาวะการณ์ปัจจุบัน และการเตรียมตัวในอนาคต........ณ ห้องโฟนิกส์ 6 Hall8 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานีโดยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชาในพระบรมราชูปถัมภ์เชิญผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ร่วมงานสัมมนา.....ผู้ประกอบการก่อสร้างกับการปรับตัวในภาวะการณ์ปัจจุบัน และการเตรียมตัวในอนาคต........ณ ห้องโฟนิกส์ 6 Hall8 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานีโดยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา ประธานกรรมการบริษัท ฤทธา จำกัดนายธานี วัฒนะสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอนซัลติ้ง แอนด์ แมนเนจเม้นต์ 49 จำกัดและนายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ธนาคารกสิกรไทย ร่วมเป็นวิทยากร โดยมีนายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายณัฐพร พรหมสุทธิเลขาธิการสมาคมฯ นางสาวลิซ่า งามตระกูลพานิชเหรัญญิกสมาคมฯ พร้อมทีมบริหาร ร่วมกันให้การต้อนรับ การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างดีมีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศกว่า 300 รายเข้าร่วมงานสัมมนา
นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานเปิดงานสัมมนากล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาในครั้งนี้ว่าในช่วงที่ผ่านผู้ประกอบการก่อสร้างของไทยเผชิญปัญหาความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองรวมทั้งผลกระทบจากภัยธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเคลื่อนตัวเข้าสู่การแข่งขันหลังการเปิด AEC ที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2558 ส่งผลให้มีผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดกิจการ ในขณะที่หลายรายรู้สึกท้อแท้ แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นคือความท้าทายและผู้ประกอบการเองต้องมีการปรับตัว เพื่อเปลี่ยนวิกฤตย์ให้เป็นโอกาส สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงจัดงานสัมมนา.....ผู้ประกอบการก่อสร้างกับการปรับตัวในภาวะการณ์ปัจจุบัน และการเตรียมตัวในอนาคต........ขึ้น
เพื่อนำเสนอมุมมองสำหรับผู้ประกอบการด้านการก่อสร้างต่อสถานะการณ์ปัจจุบัน การปรับตัวในการดำเนินธุรกิจ การวางแผนกำลังคนและเตรียมองค์กรสำหรับอนาคต พร้อมนำเสนอโอกาสของความสำเร็จจากโครงการใหญ่ ๆ จากทางภาครัฐที่จะเกิดขึ้น โดยสมาคมฯได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มากด้วยความสามารถ 3 ท่านมาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ มุมมองในการดำเนินธุรกิจ และการเปลี่ยนวิกฤตย์และโอกาสตามสไตล์ของแต่ละคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองด้านการเงินซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นจุดอ่อนสำหรับผู้ประกอบการก่อสร้างขนาดเล็กและรายย่อย ซึ่งวิทยากรได้นำมาถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการเข้าใจ พร้อมกับแผนการเตรียมการด้านการเงินสำหรับโอกาสในอนาคต
“วิกฤตย์กับโอกาสเป็นของคู่กัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเห็นก่อนและสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จนเปลี่ยนวิกฤตย์ให้กลายเป็นโอกาสที่ยั่งยืน ผมหวังว่าหัวข้อการจัดการสัมมนาในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ประกอบการในภาพรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก ได้นำความรู้ที่ได้รับจากการสัมมนาในครั้งนี้มาปรับใช้ในธุรกิจของท่าน เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการเปิด AEC ที่กำลังจะมาในอีก 2 ปีข้างหน้า”นายอังสุรัสมิ์กล่าว
สำหรับความคืบหน้าเรื่องมาตรการขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐเรื่องค่าแรง 300 บาทและวิกฤตแรงงานนั้น นายอังสุรัสมิ์กล่าวว่าผมและกรรมการบริหารสมาคมฯ ทุกท่าน ได้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างทั่วประเทศ และในวันจันทร์ที่ 23 กันยายน นี้ ผมและผู้แทนกรรมการบริหาร มีกำหนดร่วมประชุมหารือในเรื่องข้อเรียกร้องของสมาคมฯ กับ คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ) กรมบัญชีกลาง ได้ผลประการใด ทางสมาคมจะได้แจ้งข่าวสารให้สมาชิกและผู้ประกอบการก่อสร้างได้ทราบต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา ประธานกรรมการ บริษัท ฤทธา จำกัดบริษัทที่ดำเนินธุรกิจก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2530 และมีผลการดำเนินงานมากกว่า 500,000 ล้านบาท เช่น งานก่อสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ คอนโดมิเนียม อาคาร บ้าน ถนน สนามบิน โรงงาน โรงไฟฟ้า โรงพยาบาล ฯลฯ กล่าวถึงมุมต่อการปรับตัวของผู้ประกอบการในภาวะการณ์ปัจจุบัน และการเตรียมตัวในอนาคตว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นกังวลในปัจจุบันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประการ ประการแรก คือความสามารถในการหางานเข้ามาในบริษัท กับประการที่สองคือเมื่อได้งานมาแล้วจะสามารถทำงานส่งมอบได้ทันตามกำหนดหรือไม่ และเมื่อส่งมอบตามกำหนดตัวผู้ประกอบการจะประสบปัญหาการขาดทุนหรือไม่ สำหรับประการแรกคือความสามารถในการหางานเข้าบริษัทนั้น อยากให้ผู้ประกอบการทุกท่านเน้นเรื่องการปรับตัวและดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และจากประสบการณ์ที่ทำงานมานานกว่า30 ปีพบว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการส่วนใหญ่มีเพียง 4 ข้อ คืองานที่มีคุณภาพ งานมีราคาที่เหมาะสม การส่งมอบงานตรงตามเวลาที่ระบุในสัญญา และสุดท้ายภายหลังการส่งมอบคือการบริการที่ดี เพราะหลายครั้งพบว่าลูกค้ามีปัญหาหลังการใช้อาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่เมื่อเรียกผู้ประกอบการไปดูแลกลับไม่ได้รับการบริการที่ดี หากสามารถบริการดีลูกค้าก็จะบอกต่อ ก็มีโอกาสจะได้งานอีก สำหรับประการที่สองคือเมื่อได้งานมาแล้วจะสามารถทำงานส่งมอบได้ทันตามกำหนดหรือไม่ และเมื่อส่งมอบตามกำหนดตัวผู้ประกอบการจะประสบปัญหาการขาดทุนหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือผู้ประกอบการในระดับผู้บริหารจะต้องมีคือวิสัยทัศน์และการปรับตัวเพื่อแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางแผนทางการเงิน การวางแผนด้านแรงงาน ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาอย่างมากในปัจจุบัน การวางแผนเรื่องของอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง และการวางแผนด้านการบริหารจัดการ สำหรับการเตรียมตัวของผู้ประกอบในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อรองรับงานเมกะโปรเจ็คที่กำลังจะเกิดขึ้น อยากให้ผู้ประกอบการเน้นที่การวางแผนงานที่ดีในทุกด้านและปรับตัวเพื่อแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว เพราะปัญหาเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ยิ่งโครงการมีระยะเวลาสัญญานาน ๆ ก็จะมีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ธนาคารกสิกรไทยธนาคารชั้นนำทั้งในด้านการบริการและมูลค่าทางธุรกิจ กล่าวถึงความสำคัญในการวางแผนและแนวทางการปฏิบัติทางการเงินในองค์กรแก่ผู้ประกอบการก่อสร้างว่าสำหรับการดำเนินธุรกิจการวางแผนทางการเงินถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้างซึ่งพบว่ายังแนวโน้มการเติบโตสูง ทั้งโครงการเมกกะโปรเจ็คของภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น การขยายตัวของเมืองใหญ่และเมืองเกิดใหม่ซึ่งมีการเติบโตตลอดเวลา แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงคือการศึกษาความเหมาะสมในด้านต่างๆ ก่อนพิจารณารับงานจากลูกค้า โดยเน้นขนาดของโครงการให้เหมาะสมกับขนาดของบริษัท ไม่ควรรับงานที่มีขนาดใหญ่มากเกินไป สิ่งที่ควรระวังทางการเงินคือเรื่องของกระแสเงินสด การเบิกจ่ายตามงวดงานและการสำรองเงิน สำหรับการเตรียมความพร้อมทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการก่อสร้างภายหลังการเปิด AEC ในปี 2558 นั้น หากผู้ประกอบการจะขยายขอบข่ายการทำงานไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน สิ่งที่ต้องเน้นคือต้องรู้จักลูกค้าของเราเป็นอย่างดี โดยเน้นว่าลูกค้าที่จะรับงานควรมีความน่าเชื่อถือทางการเงินหรือมีสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือให้การสนับสนุน ผู้ประกอบการควรดูขนาดของโครงการที่จะรับ ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินขีดความสามารถของผู้ประกอบการ และหากต้องมีการทำสัญญาควรเน้นการจ่ายเงินด้วยสกุลเงินกลางเช่นเงินดอลล่าร์ ฯลฯ อย่างไรก็ตามธนาคารกสิกรไทยเตรียมโครงการพิเศษเพื่อผู้ประกอบการก่อสร้างโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการรายใดที่สนใจสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าของธนาคารได้โดยตรง โดยผู้ประกอบการจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมทั้งผลงานของผู้ประกอบการเองและรายละเอียดโครงการที่ต้องการขอรับการสนับสนุน สำหรับข้อคิดที่อยากจะฝากถึงผู้ประกอบการคืออยากให้ผู้ประกอบการเน้นการสร้างสมดุลย์ โดยอย่ารับงานที่เกินกว่าความเหมาะสม เน้นการบริหารการจัดการภายในองค์กรอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการจัดด้านวัสดุดิบ การจัดการแรงงาน และการบริหารต้นทุน ซึ่งทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์จะได้จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกและผู้ประกอบการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ได้ที่โทรศัพท์ 0-2251-4471-3 ทุกวันในเวลาทำการ หรือที่ Error! Hyperlink reference not valid.www.facebook.com/ThaiContractorsAssociation