กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานปิดโครงการเรียนรู้วิถีชีวิตไทยและเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งมอบนโยบายด้านเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๕๖ ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๑ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ได้ดำเนินการ โครงการเรียนรู้วิถีชีวิตไทยและเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้แก่เด็กและเยาวชนในเขต กรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๐๐ คน โดยกระทรวงฯ ได้เน้นยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน การปฏิบัติจริงจากประสบการณ์จริง เพื่อให้เด็กและเยาวชนในวัยเรียน ได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ทั้งนี้กำหนดเป็นการเรียนรู้ ๕ ด้านได้แก่ ๑.ด้านวิทยาศาสตร์ ๒. ด้านภูมิปัญญาไทย ๓.ด้านการเกษตรกรรม ๔. ด้านสิ่งแวดล้อม ๕.ด้านทักษะทางสังคม ทั้งนี้ได้น้อมนำโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้โครงการ เรียนรู้วิถีชีวิตไทยและเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้วิถีชีวิตไทย ได้ฝึกปฏิบัติจริงในฐานความรู้ต่างๆ เช่น กิจกรรมสร้างสรรค์ความคิด, รากฐานแห่งความมั่นคง,พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา, พิพิธภัณฑ์เกษตรพอเพียง หนึ่งไร่พอเพียง, การสร้างบ้านดิน และฝึกปฏิบัติการทำนาโยนกล้า เป็นต้น ซึ่งหัวใจหลักของเศรษฐกิจพอเพียง คือการอยู่ได้ด้วยสิ่งที่มีอยู่อย่างยั่งยืน โดยอาศัยความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี และมีความรู้ควบคู่คุณธรรมซึ่งเป็นรากฐานแห่งความมั่นคงในการดำรงชีวิต เพื่อพัฒนาไปสู่การพึ่งตนเองของเด็กและเยาวชนในที่สุด
นางปวีณา กล่าวต่อว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ให้ความสำคัญเรื่องของสังคมไทยที่อยู่ในกระแสของการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุดคือ เตรียมคน โดยเฉพาะเด็ก และเยาวชน ให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน โดยกระทรวงฯ ได้ขับเคลื่อนเสาหลักสังคมและวัฒนธรรม สิ่งสำคัญคือการสร้างอัตลักษณ์ของความเป็นไทยในหัวใจเด็กและเยาวชน มีความภูมิใจในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นไทย ทั้งนี้ หวังให้เด็กและเยาวชน ได้เก็บประสบการณ์การเรียนรู้และซึมซับวิถีชีวิตความเป็นไทย และเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของไทย โดยมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนไทยมีภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และดำรงเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้โดดเด่นในประชาคมอาเซียน