กรุงเทพฯ--24 ก.ย.--แบรนด์คอม คอนซัลแทนส์
มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการที่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก หรือ Global Small ส่งไปจำหน่ายทั่วโลก นอกเหนือจากการเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถกระบะแล้ว ทำให้ยอดการส่งออกรถยนต์ของบริษัทฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในการนี้ บริษัทฯ เห็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพของคลังสินค้าสำหรับชิ้นส่วนอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่ง เพื่อให้สอดรับกับปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จึงได้เช่าคลังสินค้าในโครงการ TPARK ศรีราชาเพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าในส่วนชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่ง (Part and accessories) ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และด้วยขนาดพื้นที่ถึง 25,300 ตารางเมตร ทำให้คลังสินค้าแห่งนี้เป็นคลังเก็บชิ้นส่วนอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส สำหรับการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่ง สำหรับรถยนต์ทุกรุ่นที่ผลิตโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ไปกว่า 140 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ตัดสินใจเลือกใช้บริการคลังสินค้าของ TPARK แห่งนี้ ก็เนื่องมาจากความเหมาะสมด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากท่าเรือแหลมฉบัง อันเป็นท่าเรือน้ำลึกที่ใช้ในการส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่ง ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการขนส่ง และบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้าน นายปธาน สมบูรณสิน ผู้จัดการทั่วไป TPARK หรือ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์พาร์ค จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และคลังสินค้าคุณภาพสูงพร้อมใช้เพื่อให้เช่ารายแรกของประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นลูกค้ารายใหญ่ในโครงการ TPARK ศรีราชา ซึ่งนับเป็นเกียรติอย่างสูงที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ได้ให้ความมั่นใจ และไว้วางใจในคลังสินค้าที่มีคุณภาพสูงพร้อมใช้ และมีมาตรฐานระดับสากลของ TPARK ให้เป็นคลังสินค้าของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) ที่กำลังขยายธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องในประเทศไทยนอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของพื้นที่ยุทธศาสตร์แห่งนี้
สำหรับโครงการ TPARK ศรีราชา เป็นทำเลยุทธศาสตร์แห่งใหม่ของ TPARK ซึ่งตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 7 จังหวัดชลบุรี และอยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง ที่อยู่ในเขตอุตสาหกรรมชายฝั่งตะวันออก (Eastern Seaboard) แวดล้อมด้วยนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในบริเวณใกล้เคียง อาทิ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง เป็นต้น ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้โครงการ TPARK ศรีราชาเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า เพื่อรองรับกิจกรรมของอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกได้เป็นอย่างดี ตลอดจนเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขยายตัวของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค
ดังนั้น TPARK จึงตัดสินใจพัฒนาเขตอุตสาหกรรมโลจิสติกส์แห่งนี้บนพื้นที่ 317 ไร่ โดยใช้งบลงทุนในการพัฒนาพื้นที่กว่า 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้าจะพัฒนาพื้นที่คลังสินค้ารวม 138,000 ตารางเมตร ซึ่ง TPARK มั่นใจว่า จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น และสามารถรองรับการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ได้เพิ่มมากขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า”