กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--
สพฐ.ชูธง ปรับหลักสูตร เน้นทักษะมากกว่าความรู้แบบท่องจำ หวังยกอันดับการศึกษาไทยพ้นท้ายอาเซียน แนะครูเข้าร่วมงานมหกรรมการศึกษาพัฒนาวิชาชีพครู EDUCA 2013 ที่ระดมผู้เชี่ยวชาญทางการศึกษาหัวกะทิจากทั่วโลกมาบรรยาย พร้อมด้วยเวิร์คช็อปตอบโจทย์ทุกความต้องการครู
ดร.เบญจลักษณ์ น้ำฟ้า รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) กล่าวว่า จากผลการจัดอันดับการศึกษาไทยรั้งท้ายในอาเซียน โดย World Economic Forum (WEF) ตัวชี้วัดย่อยในเรื่อง คุณภาพการศึกษาที่มีปัญหานั้น ได้มาจากความคิดเห็นของกลุ่มนักธุรกิจในเรื่องการศึกษา ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ เพราะเป็นเรื่องความคิดเห็นตามการรับรู้ อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้ทำให้เราต้องยอมรับว่ายังมีจุดที่เป็นปัญหาอยู่ ขณะนี้ได้มีความพยายามจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนถึงท้องถิ่นร่วมทำความเข้าใจที่ตรงกันเรื่องการศึกษา เนื่องจากอีก 2 ปีข้างหน้าประเทศไทยไม่เพียงแต่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เท่านั้นแต่จะเข้าสู่สนามสอบ PISA 2015 ซึ่งเป็นการวัดระดับการศึกษานานาชาติ จำเป็นต้องยกระดับหลักสูตรเพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เน้นการเรียนการสอนแบบบูรณาการเชื่อมโยงทุกวิชาให้เป็นภาพเดียวกัน เพื่อให้เด็กได้คิดอย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช่ท่องจำแบบที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้กระทรวงศึกษา ธิการ กำลังเร่งผลักดันให้การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ การยกระดับวิชาชีพครู โดยสนับสนุนครูให้พัฒนาตนเอง และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องหลักสูตรก็คงต้องจัดทำเป็นพิมพ์เขียวที่สามารถเข้าใจร่วมกันได้ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อสารให้ภาคประชาชนรับรู้และเข้าใจร่วมกันทั้งสังคม
ดร.เบญจลักษณ์ กล่าวอีกว่า การศึกษาไทยในอนาคตจำเป็นต้องปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน (ภาคเอกชน) รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เพราะในอนาคตตลาดจะต้องการบุคลากรที่มีทักษะการคิดวิเคราะห์เพราะเป็นทักษะสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและคุณลักษณะที่ดีในการทำงาน ไม่ได้เน้นมีความรู้ได้คะแนนสูงแต่เพียงอย่างเดียว เชื่อว่าคุณภาพของการศึกษาพัฒนาขึ้นได้ และควรเน้นพัฒนาคุณภาพครูในเรื่องของการค้นหาวิธีปฏิบัติที่ดี (Best Practice)ให้ครูได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เห็นตัวแบบที่เป็นรูปธรรมซึ่งมันเป็นจริงได้ในห้องเรียน และในฐานะที่ สพฐ.เองเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องพัฒนาวิชาชีพของครู จึงอยากแนะนำให้คุณครูทุกคนได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน มหกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู หรือ EDUCA 2013 ซึ่ง สพฐ.ได้ร่วมกับคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จัดงานครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณครู โดยครูสามารถใช้เวทีนี้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนปัญหา ตลอดจนได้ต้นแบบการจัดการศึกษา ที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ และการจัดการเรียนการสอนที่เป็น good practice ในระดับประเทศ เป็นทั้งความรู้สากลและแนวปฏิบัติที่นำไปปรับใช้ในสถานศึกษาของตัวเองได้เป็นอย่างดี สำหรับงาน EDUCA ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด "Strong Performers and Successful Reformers" โดยภายในงานจะพบกับเวทีการประชุมและนิทรรศการหลากหลาย ทั้งการประชุมนานาชาติ การบรรยายพิเศษและการประชุมอภิปรายโดยผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และ ฮ่องกง จัดคู่ขนานกันสองหัวข้อ คือ "หลักสูตร การสอนและการวัดประเมินผล" และ "ครุศึกษาเพื่ออนาคต" นอกจากนี้ยังมีการจัดทำเวิร์คช็อป ครอบคลุมความต้องการของครูไทย เช่น ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21, ICT สำหรับการสอนและการจัดการเรียนรู้, อาเซียน, การวัดและประเมินผล เป็นต้น รวมทั้งสิ้นมากกว่า 200 หัวข้อย่อย อีกทั้งยังมีการประชุมอภิปรายสำหรับผู้บริหารโรงเรียนทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา
ขณะเดียวกันยังมีการจัดนิทรรศการแสดงสินค้า นวัตกรรมทางการศึกษาและเทคโนโลยี โดยสาธิตในรูปแบบห้องเรียนตัวอย่าง อาทิ ห้องพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และห้องเรียนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC เป็นต้น EDUCA 2013 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม ณ อาคารอิมแพค ฟอรั่ม(ฮอลล์9) เมืองทองธานี โดยครูผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถสมัครและสำรองที่นั่งได้ที่ www.educathai.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02 748-7007 ต่อ 134
ติดต่อ:
www.educathai.com โทร.02 748-7007 ต่อ 134