กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--กระทรวงคมนาคม
นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายชาติชาย พิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท และนายทวี นรินศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด พระนครศรีอยุธยา และคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนสายทาง ทล.๓๕๕๔, ๓๔๑๒ ,๓๕๐๑ ,๓๒๖๓ และสาย อย.๔๐๓๘, ๔๐๑๖ เพื่อติดตามความพร้อมของเส้นทางต่างๆ หากเกิดอุทกภัย พร้อมทั้งตรวจสอบ การป้องกันนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร
รมช คมนาคมกล่าวว่าหากเกิดน้ำท่วมขึ้นมาอีก จำเป็นต้องรักษาโครงข่ายเส้นทางคมนาคม ให้สามารถสัญจรลำเลียงและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันสถานการณ์ อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ปรับปรุงยกระดับเส้นทางในพื้นที่ดังกล่าวให้พ้นระดับน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่พื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ลงมาจนถึงกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ ภายใต้ “โครงการปรับปรุงเพื่อยกระดับโครงข่ายถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท” กระทรวงคมนาคม เพราะรัฐบาลได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และให้ความสำคัญของระบบการคมนาคมขนส่ง ควรมีความพร้อมสำหรับการเดินทางและขนส่งหากเกิดปัญหาอุทกภัยขึ้น
สำหรับนิคมอุสาหกรรมสหรัคนนคร นั้น เนื้อที่ทั้งหมด 2,050 ไร่ พัฒนาในระยะที่1 1,441 ไร่ เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 867 ไร่ เขตที่พักอาศัย / พาณิชย์ 38 ไร่ พื้นที่สาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก 536 ไร่ มีผู้ประอบการ 46 ราย เงินสงทุน 6,782 ล้านบาท ซึ่งได้ทำการก่อสร้างถนนเป็นแนวป้องกัน เฉลี่ยความสูง 6.00-6.70 ม เฉพาะด้านหน้านิคม สูง 8.20 ม นอกจากนี้ กรมทางหลวงชนบท ได้ก่อสร้างถนนเป็นแนวป้องกัน 8.25 ม ระยะทาง 32 กม มีท่อลอด 9 จุด และประตูระบายน้ำ 3 จุด เพื่อเร่งระบายน้ำ
รมช คมนาคม กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่ามีการเฝ้าระวัง โดยประสานกับการระบายน้ำของชลประทาน ของแม่น้ำ จากเจ้าพระยา ลพบุรี และป่าสัก ทั้ง 3 สาย คือ ระดับ1 ระดับน้ำ เฝ้าระวัง ระดับที่ 2 หากระดับน้ำสูงกว่า 5.50-6.00ม ให้เตรียมอพยพ และระดับ 3 ระดับสูงเกิน 6.00 ม ให้อพอยพ