กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--ธ.ก.ส.
ธ.ก.ส. จัดงบ 77 ล้าน ให้สาขาทุกจังหวัดออกสำรวจพื้นที่ จัดถุงยังชีพและมอบเงินช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรที่ประสบภัยธรรมชาติ พร้อมวางมาตรการช่วยแก้ปัญหาหนี้
นายลักษณ์ วจนานวัช กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากปัญหาฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวม 27 จังหวัด 172 อำเภอ 926 ตำบล 6,647 หมู่บ้าน มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบ 917,538 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา-กุ้ง 171 ไร่ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย นั้น ในจำนวนนี้เป็นเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับความเดือดร้อน 14,082 ครัวเรือน ผลผลิตได้รับความเสียหาย 180,770 ไร่ จำนวนต้นเงินคงเป็นหนี้ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ 1,623 ล้านบาท และมีเกษตรกรที่เป็นลูกค้าเสียชีวิต 2 ราย คือนางบัวศรี ชะลี ลูกค้าธ.ก.ส.สาขาศรีณรงค์จ.สุรินทร์ และนางอรุณ ศรีพรมทอง ลูกค้า ธ.ก.ส. สาขาปราสาท จ.สุรินทร์
นายลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ ธ.ก.ส.ได้จัดสรรงบประมาณไปยัง ธ.ก.ส. ทุกจังหวัด จังหวัดละ 1 ล้านบาท รวม 77 ล้านบาท เพื่อจัดหาถุงยังชีพเข้าไปช่วยเหลือเป็นการเฉพาะหน้า รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือกรณีผู้นำครอบครัวเสียชีวิตหรือบ้านพังเสียหายไม่สามารถอยู่อาศัยได้ต้องเร่งซ่อมแซม รายละ 20,000 บาท กรณีมีปัญหาเครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นในครัวเรือนได้รับความเสียหาย ช่วยเหลือรายละ 2,000 บาท เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้ ธ.ก.ส.ทุกสาขา เร่งสำรวจความเดือดร้อนต่างๆเพื่อวางแผนการให้ความช่วยเหลือต่อไป
สำหรับมาตรการด้านภาระหนี้สิน นายลักษณ์กล่าวว่า ในเบื้องต้นหากผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายร้ายแรงเกินกว่าร้อยละ 50 ธ.ก.ส. จะขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป 1 ปี โดยไม่คิดเบี้ยปรับ พร้อมให้เงินกู้ใหม่เพื่อนำไปฟื้นฟูการผลิต นอกจากนี้ได้ประสานกับเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เช่นสถาบันอาชีวศึกษา บริษัทผู้จำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตร ออกช่วยเหลือและซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้ทางการเกษตรตามจุดต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากผลสำรวจพบว่าเกษตรกรมีความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือมากกว่านี้ ธ.ก.ส.จะสรุปข้อมูลรายละเอียดเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ฉะนั้นเกษตรกรจึงไม่ต้องกังวลใจ ธ.ก.ส. พร้อมเข้าไปช่วยเหลือโดยได้กำชับให้ทุกสาขาเข้าไปดูแลอย่างเต็มที่ นายลักษณ์กล่าว