กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--บมจ.สหการประมูล
บมจ.สหการประมูลเผยงานวิจัยทิศทางตลาดรถยนต์มือสอง ระบุรถประเภทกระบะเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว เนื่องจากเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ชี้เป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการตัดสินใจซื้อเพราะราคาขายยังอยู่ที่ 2.5-3.5 แสนบาทต่อคัน ส่วนราคารถเก๋งยังคงดึงดูดลูกค้าอยู่ที่คันละ 2.7 แสนบาทต่อคัน ในขณะที่ตลาดประมูลรถมอเตอร์ไซค์ชะลอตัวต่อเนื่องเพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน ราคาอยู่ที่ 1.7-1.9 หมื่นบาทต่อคัน แนะเป็นช่วงที่น่าซื้อรถทุกประเภทเก็บเข้าสต็อกเพื่อเก็งกำไร
บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT ได้รายงานผลการวิจัยตลาดรถยนต์มือสองในเดือนกันยายน 2556 พบว่าตลาดเริ่มฟื้นตัวจากเดือนที่ผ่านมาแต่ยังคงมีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อตลาดโดยเฉพาะอุปทานส่วนเกินรถยนต์ใหม่และภาวะการตึงตัวของสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม บมจ.สหการประมูลเริ่มเห็นสัญญาณการทรงตัวของราคาประมูลเฉลี่ยรถยนต์นั่งขนาด 1300-1500 cc แม้ว่าที่ผ่านมาราคาประมูลได้ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถมือสองประเภทรถเก๋งนั่งส่วนบุคคล ที่ราคายังดึงดูดการตัดสินใจซื้อมากในขณะนี้ เพราะหากเปรียบเทียบกับราคารถยนต์ใหม่แล้วยังถือว่าคุ้มค่ามาก เนื่องจากรถยนต์ปี 2006-2008 ราคาขายจากการประมูลอยู่ที่ระดับ 270,000 บาทต่อคัน
สำหรับตลาดประมูลรถยนต์มือสองประเภทกระบะนั้น บมจ.สหการประมูลคาดว่าภาวะตลาดประมูลน่าจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว ทั้งนี้ มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายรับจำนำข้าวออกมาที่ตันละ 1.5 หมื่นบาท แม้จะจำกัดวงเงินไม่เกิน 3.5 แสนต่อครัวเรือนก็ตาม แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีและเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถยนต์ประเภทกระบะมือสอง เพื่อนำไปใช้ในการเกษตรและภาคการขนส่งสินค้าเกษตร ประกอบกับภาพรวมของราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะเริ่มฟื้นตัว ดังนั้น บมจ.สหการประมูลคาดว่าในช่วงที่ราคาประมูลรถกระบะยังไม่พุ่งสูงมากนัก น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะทยอยสะสมรถเข้าสต็อก เนื่องจากรถยนต์กระบะประเภท Single Cab ที่จดทะเบียนระหว่างปี 2006—2008 ระดับราคาอยู่ที่ 250,000 บาทต่อคัน และกระบะมือสองประเภท Double Cab ที่จดทะเบียนระหว่างปีปี 2006-2008 ระดับราคาอยู่ที่ 330,000—350,000 บาทต่อคัน
ส่วนตลาดประมูลจักรยานยนต์มือสองนั้นยังอยู่ในภาวะชะลอตัวเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้ ข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากมหาลัยหอการค้าเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 79.3 จากเดือนกรกฎาคมที่ระดับ 80.03 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนตั้งแต่ธันวาคม 2555 ประกอบกับหนี้ภาคครัวเรือนของผู้บริโภคอยู่ในแนวโน้มสูง ขณะที่รายได้ของเกษตรกรตกต่ำเนื่องจากราคายางพาราและปาล์มน้ำมันปรับตัวลดลง จากปัจจัยลบดังกล่าว บมจ.สหการประมูลประเมินว่าตลาดประมูลในเดือนกันยายน 2556 นี้ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว ทั้งนี้ คาดว่าตลาดน่าเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถจักรยานยนต์มือสองในช่วงที่ราคาขายจากการประมูลอ่อนตัว เนื่องจากรถจักรยานยนต์ Moped ที่ระดับราคา19,000 บาทต่อคัน และประเภท Automatic ที่ระดับ 17,000 บาทต่อคัน
สำหรับผู้ที่สนใจประมูลซื้อรถยนต์ทั้งเก๋งและกระบะ รวมทั้งรถจักรยานยนต์มือสอง สอบถามรายการรถยนต์ได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 0-2934-7344 หรือดูรายการประมูลได้ที่ www.union-auction.com
สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณพิม โทร.02-934-7344