กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,328 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,291 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.15 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700บาท และกลับมาปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 929 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,540 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท ลดลง 4 % GFV13 ปิด 19,210 บาท และGFZ13 ปิด 19,290 บาท GF10V13 ปิด 19,200 บาท GF10Z13 ปิด 19,290 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 40.9 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,286.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 53.3 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.175 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 905.99 ตัน (ถือครองทองคำเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 29 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 102.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 62.03 จุด ปิดที่ 15,191.70 จุด
ข่าวที่สำคัญ
- ทองคำล่วงหน้าปรับตัวลดลง38.40สู่ระดับ1288.60ในช่วงตลาดโคเม็กซ์ จากที่รัฐบาลสหรัฐฯเริ่มมีการตัดงบประมาณบางส่วนในรอบ17ปีและเกิดแรงเทขายจากบรรดากองทุนใหญ่
- จิม เวคคอฟ จาก คิทโก้ กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯแสดงถึงความไม่มั่นคงตลาดจึงเกิดความสับสนและเกิดแรงเทขายออกมาในกลางเดือนตุลาคมนี้รัฐบาลสหรัฐฯอาจต้องลดเพดานหนี้ลงบางส่วนที่ค่อนข้างกระทบต่อตลาดทองคำอย่างมาก
- คิทโก้ บูลเลี่ยน ให้ระดับแนวต้านแรกสำหรับราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 1,300 /1,320 เหรียญ ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 1282.40 /1271.80เหรียญ
- peter hug กรรมการผู้จัดการบริษัทคิทโก้ เมทัล กล่าวว่า มีเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อทองคำให้เป็นขาขึ้นได้นั้นต้องจับตาดูการเจรจาเรื่องdebt ceiling ในอีก 17วันที่กำลังจะถึงการตัดงบประมาณบางส่วนของภาครัฐอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานถึง 800,000ราย
- แฟรงส์ เลซ จากฟิวเจอร์ปาร์ค เทรดดิ้งที่ชิคาโก กล่าวว่าทองคำได้รับผลกระทบจากข่าวรัฐบาลแต่ไม่เป็นในรูปแบบสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแต่กลับกลายเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่นักลงทุนชอบเสี่ยง
- World Gold Council ระบุว่า ปริมาณความต้องการทองคำของจีนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ตัน
- อินเดียเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำจากระดับ 432 เป็น 436 เหรียญ/ทอง 10 กรัม
- สำหรับการถือครองของSPDR ยังคงเดิมที่ระดับ 905.99 ตัน
- ตลาด S&P 500 INDEX ที่สูงขึ้น 11% ในรอบ 12เดือนจากที่รัฐบาลสหรัฐฯอาจลดงบประมาณบางส่วนออกไปเนื่องจากนักลงทุนมองว่าโครงการรัฐบาลมีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมที่ลดความน่าเชื่อถือ
- MKS news รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯอาจลดงบประมาณบางส่วนลงมีผลให้ตัวเลข Non-Farm Payrolls ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้อาจถูกเลื่อนออกไปเป็นสัปดาห์หน้า
- โอบามาได้กล่าวถึงผู้นำเฟดคนใหม่ไว้ว่าจะต้องมีนโยบายที่ชาญฉลาดเสมือนเบน เบอร์นันเก้ซึ่งดิค เดอร์บินสภาผู้แทนราษฎร์อาวุโสลำดับที่2 ได้ให้ความเห็นว่าโอบาม่าอาจเลือก นางเจเน็ต แยลเลน มาแทนที่เบอร์นันเก้
- ดาวโจนส์ปิดที่ 15,191.70 จุด เพิ่มขึ้น 62.03 จุด หรือ +0.41% นักลงทุนมีมุมมองในด้านบวกที่สหรัฐจำเป็นต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาลหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณที่อาจทำให้เฟดเลื่อนคิวอีออกไป
- นิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวขึ้น 34.46 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 14,519.18 จุดเพราะได้แรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นสหรัฐ และข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 55.7 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.2
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 176K คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 177K
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในตลาด Comex หลังจากที่เป็นการยืนยันว่าทางหน่วยงานรัฐของทางสหรัฐจะต้องปิดตัวลง เนื่องจากไม่สามารถตกลงกันได้ชัดเจน ซึ่งตลาดกลับมองว่าเป็นเรื่องของการปิดตัวชั่วคราวและไม่น่ากระทบเศรษฐกิจสหรัฐ ในขณะที่มุมมองว่าการที่จะต้องตัดลดงบจริงจังนำไปสู่การลด QE ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนาแน่นจนหลุดระดับ 1,300 เหรียญลงมา ทองคำยังถูกกดดันอย่างต่อเนื่องและก็ราคาลงไปทำต่ำสุดประมาณ 1,283 เหรียญ ในขณะที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไรถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 905.99 ตัน สำหรับเมื่อคืนนี้ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.2 และสำหรับวันนี้คงต้องติดตามตัวเลข ADP Non-Farm Employment Change, Crude Oil Inventories ในส่วนของค่าเงินดอลลาร์เองทรงตัวอยู่ที่ระดับเดิมบริเวณ 1.3511-1.3520 ดอลลาร์/ยูโร และ USD Index ปรับตัวอยู่บริเวณ 80.1 ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 62.03 จุด ปิดที่ 15,191.70 จุด
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค —
ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างชัดเจนอีกครั้งทั้งระยะสั้น กลาง ยาว หลังจากหลุดระดับ 1,300 เหรียญลงมา แนวรับถัดไปบริเวณ 1,275 เหรียญ และ 1,250 เหรียญ ตามลำดับ ในขณะที่แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญ คงต้องติดตามข่าว Debt Ceiling ถ้ารัฐบาลสามารถเปิดได้ในวันสองวันนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา แต่หากนานกว่านี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ —
MTS GOLD ย้ำให้ลงทุนในทิศทางขาลงและไม่เฉลี่ยซื้อ ถ้านักลงทุนมี Long Position หรือซื้อทองคำอยู่ ขอให้ลงทุนในแนวโน้มขาลง ซึ่งเป็นลักษณะขายก่อนตามจังหวะที่ดีดตัวขึ้นมา ซี่งบริเวณ 1,293 เหรียญ น่าจะเป็นจุดที่จะเริ่มขายปิด Long Position หรือเปิด Short Position ยังไม่คิดว่าจะทะลุระดับ 1,300 ขึ้นไปได้
นักลงทุนที่ถือ Long Position
MTS GOLD ได้แนะนำให้ทำ Stop loss ออกไปและปิดก่อนหน้านี้แล้ว หวังใจว่าท่านจะมีสถานะที่น้อยและทำ Cut loss ให้เร็ว ยังมองเป็นทิศทางขาลงแนะนำให้ปิดสถานะ
นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ซื้อทำกำไรเป็นช่วงๆและหาจังหวะ Short เพิ่ม เมื่อราคาดีดขึ้นบริเวณแนวต้านสำคัญ
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,070 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,270 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,130 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,330 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง