กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ปภ.
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่กรุงเทพมหานครตรวจ 3 จุดหลักเสี่ยงอุทกภัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในชุมชนเสี่ยงภัยของกรุงเทพมหานคร โดยได้กำชับให้กรุงเทพมหานครประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำ แผนการบริหารจัดการน้ำกับ กบอ. และกระทรวงมหาดไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว และลดผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ริมน้ำในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงกลางเดือนตุลาคม 2556
นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยใน 27 ชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใน 13 เขตของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งน้ำทะเลหนุนสูง รวมถึงพื้นที่ฝั่งตะวันออกยังเป็นจุดอ่อน น้ำท่วมขัง ดังนั้น เพื่อเป็นการบูรณาการการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้ลงพื้นที่ติดตามรับฟังสถานการณ์น้ำและการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยในชุมชนเสี่ยงภัยของกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่สำคัญ 3 จุด ได้แก่ 1.บริเวณประตูระบายน้ำคลองสองด้านใต้ เขตสายไหม 2.บริเวณชุมชนดาวทอง คลองบ้านใหม่ เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เมื่อมีฝนตกหนักมักเกิดปัญหาน้ำท่วมจากการระบายน้ำไม่ทัน และ 3.บริเวณท่าเรือเขียวไข่กา เขตดุสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนเสี่ยงน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีบ้านเรือนประชาชนรวมกว่า 250 ครัวเรือน ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมในการระบายน้ำ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุดเสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการระบายน้ำกรณีมีฝนตกหนัก ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรองรับ ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเร่งระบายจากเขื่อน ประกอบกับภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงกลางสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 7 — 11 ตุลาคม 2556 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมน้ำที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องแล้ว จึงได้สั่งกำชับให้กรุงเทพมหานครประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำ แผนการระบายน้ำ กับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
นายวิสาร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองสายต่างๆ ในกรุงเทพมหานครอยู่ในระดับปกติ ซึ่งสถานการณ์ในภาพรวมยังไม่น่าเป็นห่วง ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ประสานการดำเนินงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล โดยจัดเจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ และป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น