กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--บีโอไอ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยบีโอไอออกประกาศส่งเสริมการลงทุนในโครงการ อีโคคาร์ ระยะที่ 2 แล้ว พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่สนใจยื่นคำขอส่งเสริมเพื่อเข้าร่วมโครงการได้ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557 และวางเป้าหมายให้เริ่มผลิตอย่างช้าในปี 2562 มั่นใจช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของประเทศไทย ด้านบีโอไอ เตรียมเชิญค่ายรถยนต์ร่วมรับฟังรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการภายใน 2 สัปดาห์นี้
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ได้รายงานถึงการออกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ฉบับที่ ส 1/2556 ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 เพื่อให้การส่งเสริมกิจการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล รุ่นที่ 2 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่สนใจทุกราย สามารถยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามโครงการดังกล่าวได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557
ทั้งนี้ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์จะต้องยื่นคำขอส่งเสริมโครงการภายใต้เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ ได้แก่ มีมูลค่าเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 6,500 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทุนผลิตแบบครบวงจรทั้งการประกอบรถยนต์และการผลิตชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ มีปริมาณการผลิตไม่น้อยกว่า 100,000 คันต่อปี นับตั้งแต่การผลิตปีที่ 4 เป็นต้นไป
สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้สำหรับอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะต้องเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานยูโร 5 ที่มีมาตรฐานในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และต้องมีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไม่เกิน 4.3 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร สำหรับขนาดเครื่องยนต์ของอีโคคาร์ 2 หากเป็นเครื่องยนต์เบนซินต้องมีขนาดไม่เกิน 1300 ซีซี ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลต้องมีขนาดไม่เกิน 1500 ซีซี
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการค่ายรถยนต์รายเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์รุ่น ที่ 1 สามารถเลือกขยายการลงทุนได้ 3 ทาง คือ 1. สามารถยื่นขอรับส่งเสริมลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ภายใต้เงื่อนไขใหม่ แต่มูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำลดจากเงื่อนไข 6,500 ล้านบาท เหลือ 5,000 ล้านบาท 2. ยื่นขอขยายการลงทุนผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 ภายใต้เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์การลงทุนเดิม โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่ และ 3. ผู้ผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 1 สามารถยื่นขอขยายการผลิตทั้งอีโคคาร์รุ่นที่ 1 และเพิ่มการผลิตอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ได้ด้วย โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับจำนวนปีที่เหลืออยู่
“โครงการอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการทุกรายที่มีความพร้อม และมีความสนใจเข้าร่วมโครงการได้อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้เกิดการแข่งขันของตลาดรถยนต์อย่างเป็นธรรม เป็นไปตามเป้าหมายของการกระตุ้นอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของประเทศไทย ทั้งนี้ค่ายรถยนต์รายใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการอีโคคาร์รุ่นที่ 1 สามารถยื่นขอส่งเสริมการลงทุนได้ทันที ซึ่งตามกรอบเวลาของแผนกำหนดให้ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจะต้องเริ่มดำเนินการผลิตอย่างช้าในปี 2562 นี้” นายประเสริฐกล่าว
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า เพื่อให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้มากขึ้น บีโอไอจะเชิญผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้ทุกรายเข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดและเงื่อนไขการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนอย่างเป็นทางการภายในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนถึงแนวทางและรูปแบบของโครงการยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการอีโคคาร์รุ่นที่ 2 จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลเป็นเวลา 6 ปี แต่หากผู้ผลิตรายใดมีการลงทุนหรือใช้จ่าย เพื่อพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ภายใน 5 ปี จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 1 ปี รวมเป็น 7 ปี และหากมีการลงทุนหรือใช้จ่ายเพื่อพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท ภายใน 5 ปี จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ นิติบุคคลเพิ่มเติม 2 ปี รวมเป็น 8 ปี นอกจากนี้ ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักรเช่นเดียวกับอีโคคาร์รุ่นที่ 1