กรุงเทพฯ--3 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,290 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,316 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.15 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,050 บาท กับ 19,150 บาท และกลับมาปิดที่ 19,150 บาท กับ 19,250 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,728 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,759 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 13.5% แบบ 10 บาท ลดลง 9.7% GFV13 ปิด 19,570 บาท และGFZ13 ปิด 19,620 บาท GF10V13 ปิด 19,580 บาท GF10Z13 ปิด 19,620 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 34.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,320.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น72.2 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.897 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 901.79 ตัน (ขายออก 4.2 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 2.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 104.1 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 58.56 จุด ปิดที่ 15,133.14 จุด
ข่าวที่สำคัญ
- ทองคำกลับทิศทางปรับตัวสูงขึ้น $30.60 สู่ระดับ $1,316.80 ต่อออนซ์ช่วงตลาดโคเม็กซ์เนื่องจากสถานการณ์ตัดงบประมาณสหรัฐฯนั้นยังไม่ยุติอาจส่งผลให้เฟดต้องเลื่อนการตัดสินใจลดคิวอีออกไปเช่นกัน ทองคำจึงเกิดแรงซื้อจากการปิดสถานะขายและเข้าซื้อใหม่
- จิม เวคคอฟ จากคิทโก้กล่าวว่า ทองคำปรับตัวขึ้นในระยะสั้นๆแต่ก็ยังคงไม่ผ่านแนวต้านที่แข็งแกร่งได้ ทางเทคนิคราคานั้นจะต้องผ่านที่ระดับ $1,353.80 ต่อออนซ์ที่เคยทำไว้เสียก่อน
ตามการรายงานวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคของโลจิกซ์ แอดไวเซอร์ได้ระบุว่า ทองคำอาจมีการดีดตัวกลับไปที่ระดับ $1,425 ต่อออนซ์ได้ในไตรมาสที่4 ซึ่งกราฟนั้นแสดงถึงรูปแบบของ double bottom
- กรมการค้าอุตสาหกรรมรัสเซียเปิดเผยว่าผลผลิตทองคำของรัสเซียนั้นเพิ่มขึ้น 12.2% ที่ระดับสูงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สำหรับปี 2013
- ยอดการนำเข้าทองคำของอินเดียเพิ่มสูงขึ้น 7.24ตันสำหรับเดือนกันยายน ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นสองเท่าจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สู่ระดับ 3.38ตัน หลังจากที่รัฐบาลผ่อนปรนภาษีและตลาดต้องการผลิตจิวเวลรี่
- สำหรับ SPDR ได้ลดการถือครองทองคำที่ระดับ 4.2 ตัน หรือ 0.46% สู่ระดับ 901.79ตัน
- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังคงอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่ระดับ 1% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับ 0% เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปดีขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 เดือน
- ทางด้าน มาริโอ้ ดาร์กี้ ประธานอีซีบีนั้น ไม่ได้แสดงความกังวลกับปัญหาการตัดงบสหรัฐฯที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกแต่กลับมองภาพรวมของสหภาพยุโรปว่าดีขึ้นและอีซีบีเองสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นตลาดต่อไปได้
- เมื่อคืนวันพุธเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดสหรัฐฯหลีกเลี่ยงที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การตัดงบสหรัฐฯและกล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจ
- ส่วนทางด้าน อีริค โรเซนเจน ประธานเฟดสาขาบอสตันได้กล่าวว่า เรื่องการตัดงบสหรัฐฯนั้นมีผลทำให้การตัดสินใจที่จะลดคิวอีนั้นเลื่อนออกไปเพราะเฟดนั้นขาดข้อมูลตัวเลขที่แท้จริงของเศรษฐกิจในเวลานี้
- MKS News รายงานว่า ข่าวจาก BFW กล่าวว่า Fitch เรตติ้งน่าจะปรับลดเครดิตสหรัฐ ก่อนกำหนดการสิ้นสุดเพดานหนี้สหรัฐ
- นายโบห์นเนอร์ โฆษกพรรครีพลับลิกัน กล่าวว่า นายโอบามาปฏิเสธที่จะเจรจาในการประชุมสมาชิกสภาระดับสูงเกี่ยวกับการปิดตัวลงของรัฐบาล ส่งสัญญาณถึงการขาดความคืบหน้าในการแก้ปัญหางบประมาณชะงักงัน ซึ่งทำเนียบขาวได้ออกมาประกาศหลังการประชุมว่า อาจจะดำเนินการวันนี้ เพื่อกลับมาเปิดรัฐบาลอีกครั้ง
- แฮรี่ รีดส์ สมาชิกระดับสูงพรรคเดโมแครต กล่าววันนี้ว่า วุฒิสภาสหรัฐจะพิจารณาการเพิ่มระดับเพดานหนี้ก่อนวันที่ 17 ต.ค. ที่หนี้จะชนเพดาน ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับการตัดลดงบประมาณ หรือการเปลี่ยนนโยบายใดๆที่รีพลับลิกันต้องการ
- เช้านี้จีนเผยดัชนีอุตสกรรมด้านบริการเพิ่มขึ้นแตะ 55.4 ในเดือนก.ย.ซึ่งตัวเลขนั้นเหนือระดับ 50.0 แสดงให้เห็นถึงจีนมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจที่ดีอยู่
- ดาวโจนส์ปิดที่ 15,133.14 จุด ลดลง 58.56 จุด หรือ -0.39% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
- นิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 14,140.11 จุด ลดลง 30.38 จุด หรือ -0.21% ซึ่งเป็นการปรับตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 159K ตัวเลขจริงปรับตัวสู่ระดับ 166K
ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 305K คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 315K
- ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 58.6 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 57.2
ทิศทางราคาทองคำ
ในภาพรวม ตลาดทองคำดีดตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในตลาด Comex เนื่องจากความกังวลจะมาจากการที่รัฐบาลหยุดทำการอย่างต่อเนื่องและยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา Debt Ceiling ทำให้นักลงทุนหันกลับมาซื้อทองคำอีกครั้งหนึ่ง และเงินดอลลาร์เองอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับยูโรกลับมาอ่อนค่าจากระดับ 1.3515 มาอยู่ที่ระดับ 1.3570 ดอลลาร์ต่อยูโรโดยประมาณ ทำให้ยังคงมีความผันผวนในตลาดทองคำ โดยที่ตัวเลข ADP Non-farm Payrolls เมื่อวานออกมาต่ำกว่าที่คาดประมาณ 11,000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ประกาศ เมื่อวาน SPDR กลับมาเป็นผู้ขายอีกครั้งอีก 4.2 ตัน คงการถือครองทองคำ 901.79 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวม ทางเทคนิคมีสภาพการแกว่งตัวหาทิศทางที่ชัดเจนในขณะนี้ไม่ได้ ซึ่งในระยะสั้น คาดว่าน่าจะมีการแกว่งตัวเช่นนี้ต่อไปจนกว่าจะมีความชัดเจนในการแก้ปัญหา Debt Ceiling โดยที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนในกรอบ 1,290-1,330 เหรียญ โดยแนวต้านด้านบนบริเวณ 1,330 เหรียญ ยังดูจะค่อนข้างแข็งแกร่ง เชื่อว่าราคาคงผันผวนมากตามทิศทางของข่าว
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำให้ทำกำไรในทั้ง 2 ทิศทางเมื่อราคาแกว่ง และไม่ถือครองสถานะที่เยอะเกินไป โดยไม่ใช้ Leverage มากนัก
นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้ขายปิดทำกำไร
นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังคงแนะนำให้ปิดทำกำไร
Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,650 บาท
Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,500บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,700 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง