กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--ฟรอสต์ฯ
ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวนคาดการณ์ ตลาดยานยนต์พม่ามีแนวโน้มที่จะเติบโตร้อยละ 7.8 ในระหว่างปี 2556-2562 ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ รายได้ประชากรที่เพิ่มมากขึ้น
มร. ดัชยาน ซิง รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจยานยนต์ บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกกล่าวว่า ธุรกิจยานยนต์ของพม่าจะเริ่มเติบโตอย่างจริงจังหลังจากปี 2557 เป็นต้นไป
จากการวิจัยของฟรอสต์แอนด์ ซัลลิแวนพบว่า ปัจจุบันยานยนต์ในประเทศพม่าส่วนใหญ่เป็นรถมือสองและการที่ตลาดยานยนต์ของพม่ามีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 7.8 ในช่วงปี 2556-2562 นั้นเป็นผลมาจากการเปิดประเทศ และการเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคอาเซียนที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่นๆ อาทิ การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายภายในประเทศ ราคารถที่เพิ่มสูงขึ้น และศูนย์บริการที่ยังไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและจำนวนถนนที่ยังไม่เพียงพอ อาจเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโต
หลังจากที่มีการเปิดประเทศ พม่าเริ่มเปิดตัวเองเรื่องการค้าเสรีและการลงทุนมากขึ้น โดยเห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในปี 2555 โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับกฎหมายการลงทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการปฎิรูปในด้านการเงิน การธนาคาร และการประกันภัยต่างๆ ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลพม่าในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อการขยายตัวของประเทศในอนาคต
ดัชยาน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มคนวัยทำงานและมีรถจักรยานยนต์เป็นของตนเองคือกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อรถยนต์ในอนาคตปัจจุบัน พาหนะหลักของคนในประเทศพม่าคือรถจักรยานยนต์ หรือคิดเป็น ร้อยละ 80 ของทั้งหมด ในขณะที่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล คิดเป็นร้อยละ 11 ส่วน รถบรรทุกและรถบัส คิดเป็นร้อยละ 3 และ ร้อยละ 1 ตามลำดับ
นอกจากนี้ ดัชยานได้เปิดเผยว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ส่วนใหญ่ที่มีในประเทศพม่า ถูกนำเข้าจากประเทศจีน และประเทศไทย และอาจมีการผลิตเองบ้างภายในประเทศแต่เป็นเพียงส่วนน้อยที่คุณภาพต่ำ
“ยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มว่าจะครองตลาดพม่าเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ ฮอนด้า ซูซุกิ และนิสสัน ที่ได้รับความนิยมจากรถขนาดเล็ก อาทิ ฮอนด้า ฟิต, ฮอนด้า บริโอ้, ซูซุกิ สวิฟ, และนิสสัน มาร์ช เป็นต้น”
“ยานยนต์จากประเทศจีน และประเทศเกาหลียังมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากมีราคาไม่แพง และใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่น” ดัชยาน กล่าว
“อย่างไรก็ตาม ยานยนต์จากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศในแถบยุโรปยังไม่เป็นที่นิยมเท่าใดนักในประเทศพม่า เนื่องจากขาดการสนับสนุนเรื่องการบริการหลังการขายที่ดี โดยเฉพาะเรื่องชิ้นส่วนยานยนต์ที่ค่อนข้างหายากและมีจำนวนจำกัด” ดัชยาน กล่าว