สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 7, 2013 10:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,315 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,309 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.28 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,450 บาท กับ 19,550 บาท และกลับมาปิดที่ 19,450 บาท กับ 19,550 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 821 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,104 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.7% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.9 % GFV13 ปิด 19,580 บาท และGFZ13 ปิด 19,650 บาท GF10V13 ปิด 19,580 บาท GF10Z13 ปิด 19,640 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 7.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,309.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 3.4 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.752 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 899.99 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 53 เซ็นต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 103.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 76.01 จุด ปิดที่ 15,072.58 จุด ข่าวที่สำคัญ -ราคาทองคำปรับตัวลง $ 29.30 หรือ 2.2 % ในรอบสัปดาห์ และคืนวันศุกร์กลับมาทรงตัวที่ระดับ $ 1,309.90 ต่อออนซ์ ในช่วงตลาดโคเมกซ์และเช้านี้ทรงตัวที่ระดับ $1314.00 ต่อออนซ์ ทองคำยังคงรอคอยการจัดการเรื่องปัญหาการตัดงบรัฐบาลและทิศทางการเมืองของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ -ตลาด เฝ้าจับตาดูความไม่ลงรอยกันในเรื่องตัดงบรัฐบาลสหรัฐฯก่อนวันที่ 17ตุลาคมนี้จะมาถึง แต่อย่างไรก็ตามการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญหากโอบา มายังคงจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้แผนการลดคิวอีจะเลื่อนออกไปเพราะไม่ สามารถแสดงตัวเลขการว่างงานที่ชัดเจน -จากการสำรวจจากคิทโก้ได้รับการตอบรับจากเหล่าบรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนทั้งหมด21ราย ซึ่ง 10รายมองว่าทองคำจะขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่ 6 รายมองว่าลงและอีก 5รายให้ความเป็นกลาง ลาฟ พริสตัน จาก เฮอร์ริเทจ เวสต์ ไฟแนนซ์ กล่าวว่าทองคำพยายามวิ่งทะยานแตะเหนือระดับ $1,343 ต่อออนซ์ที่ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50วัน หรือในทางกลับกันหากล้มเหลวก็จะเห็นที่ระดับ $1,275 ต่อออนซ์ - เบอร์นันเก้ กล่าวว่า ไม่เข้าใจทิศทางทองคำถ้าให้ความสำคัญเท่ากันอาจจะหยุดขยายการสำรองเนื่องจากขาดทุนไปถึง 545 พันล้านเหรียญสหรัฐฯจากที่ทองคำอยู่ระดับสูงเมื่อปี 2011 ซึ่งทองคำปรับตัวลงมา 31% ต้องแต่นั้นมา -นายสเตน ผู้ว่าการฝ่ายปกครองของเฟด และนายดัดเล่ย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ได้กล่าวเมื่อวันุศกร์ว่าหมายกำหนดการยังมีอุปสรรคในการแถลงการณ์เรื่องลดคิวอีซึ่งบางส่วนได้รับผลกระทบจากการไม่ลงรอยเรื่องเพดานหนี้ -วอร์เรน บัพเฟตเศรษฐีอันดับที่สี่ของโลกกล่าวว่า ในหลายประเทศใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อและไม่มีธนาคารกลางใดหรือ สถาบันรัฐใดได้ผูกติดสกุลเงินกับทองคำโดยตรงซึ่งเฟดได้แยกดอลลาร์ออกจาก ทองคำมาเป็นเวลากว่า 40ปีแล้ว -เกิดข่าวลือมากว่าถ้าเฟดลดคิวอีและทองคำจะถูกกดลงและการเลื่อนออกไปทองคำนั้นดีดตัว ทองคำเหมือนไม่มีแรงจำกัดในการขึ้นหรือลงโดยภาพรวมตลาดหุ้นนั้นมีทิศทางเป็นขาขึ้น แต่ทองคำนั้นอยู่ในทิศทางขาลง ดังนั้นการตัดสินใจของเฟดตลาดหุ้นย่อมมีแรงกระทบมากกว่าทองคำ -อินเดียนำเข้าทองคำมากกว่า 1 ตันผ่านทาง Nova Scotia หลังจากที่คณะกรรมการระดับสูงผ่านร่างกฎหมายภาษีอย่างเป็นเอกฉันท์ -รัฐบาลสหรัฐฯยังคงต่อสู้เพื่อโครงการโอบามาแคร์ขณะที่เลขาธิการกระทรวงการคลัง เจคอป เจ ลิวกระตุ้นให้สภานั้นต้องจัดสรรเรื่องงบประมาณเพดานหนี้ให้เรียบร้อยก่อนกลางเดือนตุลาคม สำหรับโอบามาต้องการที่จะเพิ่มงบประมาณเพื่อให้ยังคงไว้ไปถึงเดือนพฤสจิกายน 2014เพื่อยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเมืองต่อไปได้ -สภาคองเกรสอนุมัติการขยายเพดานหนี้ให้รัฐบาลกลางไปแล้ว 77 ครั้ง ซึ่งแทบทุกครั้งไม่เคยเกิดปัญหา ต่างจากครั้งนี้กำลังจะเกิดขึ้น เดโมแครตสูญเสียการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรให้กับรีพับลิกันมาตั้งแต่ปี 2553 ทำให้การ "ต่อสู้" เรื่องงบประมาณถือเป็นเรื่องปกติ -สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 407 ต่อ 0 ในการอนุมัติร่างกฎหมายจ่ายเงินชดเชยแก่เจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ถูกพักงานประมาณ 800,000 ราย จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยืนกรานว่าหนทางเดียวที่จะทำให้วิกฤตชัตดาวน์สิ้นสุดลงคือเดโมแครตต้องมา เจรจากับเขาและยอมรับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายโอบามาแคร์เพื่อให้เกิดความ ยุติธรรมกับทุกฝ่าย -รัฐบาลสหรัฐแถลงการณ์ว่า การเจรจาหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนข้ามแอตแลนติก (TTIP) รอบสองถูกยกเลิก หลังจากที่รัฐบาลกลางสหรัฐต้องเผชิญกับสถานการณ์การตัดงบประมาณที่ไม่ลงรอย -สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากที่อ่อนค่าลงติดต่อกัน 5 วันทำการ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมถึงปัญหาเพดานหนี้ ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น 0.17% ที่ระดับ 97.410 เยน/ดอลลาร์ จาก 97.240 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.52% ที่ระดับ1.3546 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3617 ดอลลาร์/ยูโร ปัจจัยอื่นๆสำหรับสัปดาห์หน้าตลาดจีนจะกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากวันชาติที่ปิดทำการตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา - ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ปิดตลาดวันทำการที่ 15,072.58 จุด เพิ่มขึ้น 76.10 จุด หรือ?+0.51%แม้ว่าการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐจะล่วงเข้าสู่วันที่ 4 แล้วก็ตาม - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก เพราะได้รับแรงหนุนจากการปิดบวกของดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ - ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ทิศทางราคาทองคำ ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ แต่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ดูจะปรับตัวลดลงประมาณ 20 เหรียญ โดยที่ตลาดยังมุ่งความสนใจไปที่การทีมี Dead Line ใน Debt Ceiling และการปิดการทำการของภาครัฐบาลสหรัฐอเมริกา ตลาดยังคาดว่าการเคลื่อนตัวยังคงเป็นไปตามทิศทางของข่าวที่เข้ามาในการแก้ปัญหา Debt Ceiling ซึ่งมีทั้งบวกและลบอยู่ตลอดเวลา ในวันนี้จะไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ในขณะที่ SPDR ยังไม่ได้ทำอะไร โดยถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 899.99 ตัน วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำเคลื่อนตัวไร้ทิศทางแกว่งตัวในกรอบ 1,310 - 1,340 เหรียญ และยังคาดว่าจะเคลื่อนตัวเช่นนี้จนกว่าจะมีความชัดเจนในการแก้ไข Debt Ceiling กรอบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะอยู่ในระหว่าง 1,300 -1,345 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังเป็นลักษณะของการลดสถานะการถือครองเพื่อพร้อมรับกับความเสี่ยงที่จะเข้ามา ซึ่งมีทั้งโอกาสจะปรับลงแรงๆและขึ้นแรงๆได้ - นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position ให้ลดสถานะการถือครองลง และลด Leverage ลง และทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นกลยุทธ์การลงทุนตามกรอบ Sideways ดังกล่าว Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,650 บาท Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,530 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,730 บาท บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ