กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรฯ เห็นชอบปรับเพิ่มปริมาณการนำเข้าหอมหัวใหญ่และมันฝรั่งในโควตา WTO ปี 2556-2557 หวังส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศ และผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศ
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการการเปิดตลาดหอมหัวใหญ่ตามข้อผูกพันองค์การการค้าโลก (WTO) ปี 2556-2557 เพิ่มเติม จากปริมาณโควตาเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 365 ตัน เป็น 764 ตัน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 27 อัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 142 โดยให้ชุมนุมสหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แห่งประเทศไทย จำกัด เป็นผู้จัดสรรให้นิติบุคคลเป็นผู้นำเข้า เนื่องจากสินค้าหอมหัวใหญ่ชนิดผงและหั่นแห้งที่ผู้ผลิตอาหารเสนอขอนำเข้าจากปริมาณการเปิดตลาดไว้เดิม หรือจำนวน 365 ตันนั้น เป็นหอมหัวใหญ่ชนิดที่มีคุณภาพพิเศษ ซึ่งประเทศไทยไม่สามารถผลิตในปริมาณที่เพียงพอ ดังนั้น การเพิ่มปริมาณโควตาดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศ และผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อการส่งออกสร้างรายได้เข้าประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารภายในประเทศสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
ที่ประชุมยังได้พิจารณาการเปิดตลาดมันฝรั่งตามข้อผูกพัน WTO ปี 2557 โดยมีมติเห็นชอบการเปิดตลาดหัวมันฝรั่งพันธุ์โรงงานปี 2557 เพิ่มเติม จากปริมาณในโควตาเดิม จำนวน 36,000 ตัน เป็น 45,000 ตัน อัตราภาษีในโควตาร้อยละ 27 และอัตราภาษีนอกโควตาร้อยละ 125 ภายใต้เงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการจัดการการผลิตและการตลาดกระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่งได้กำหนด คือ ผู้นำเข้าต้องเป็นนิติบุคคล โดยทำสัญญารับซื้อผลผลิตหัวมันฝรั่งพันธุ์โรงงานสดจากเกษตรกร และกำหนดราคารับซื้อในช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน ในขั้นต่ำกิโลกรัมละ 10.40 บาท และราคารับซื้อในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม ในขั้นต่ำกิโลกรัมละ 14 บาท โดยให้นำเข้าในช่วงเดือนกรกฎาคม —ธันวาคม เนื่องจากในปี 2557-2560 บริษัทผู้ผลิตมันฝรั่งสำเร็จรูปมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้หัวมันฝรั่งเพิ่มขึ้น ขณะที่คาดว่าผลผลิตหัวมันฝรั่งพันธุ์โรงงานที่เกษตรกรผลิตได้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าความต้องการใช้ของโรงงาน อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตมันฝรั่งสำเร็จรูปจะต้องรับซื้อผลผลิตภายในประเทศทั้งหมดก่อนจึงนำเข้าจากต่างประเทศได้
ทั้งนี้ มติที่ประชุมดังกล่าว คณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป