นายกฯ สั่งการ ปภ. และ จว.ดูแลผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมประสาน รมต. ที่รับมอบหมายอย่างใกล้ชิด

ข่าวทั่วไป Wednesday October 9, 2013 10:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัย 38 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 27 จังหวัด นายกรัฐมนตรีได้สั่งการกระทรวงมหาดไทย กำชับ ปภ. และผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประสบอุทกภัยดูแลผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง ให้การช่วยเหลือรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม ครอบคลุมตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ รวมถึงประสานการดำเนินงาน พร้อมรายงานสถานการณ์ต่อรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นระยะอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะยุติ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการสั่งการและวางแผนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2556 ถึงปัจจุบันเกิดสถานการณ์อุทกภัยรวม 38 จังหวัด 283 อำเภอ 1,747 ตำบล 14,044 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 961,067 ครัวเรือน 3,147,892 คน บ้านเรือนเสียหาย 15,611 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 3,178,372 ไร่ ผู้เสียชีวิต 36 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง กำแพงเพชร อุทัยธานี นครราชสีมา กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ และชุมพร ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 27 จังหวัด 161 อำเภอ 1,012 ตำบล 7,775 หมู่บ้าน 486,122 ครัวเรือน 1,606,987 คน แยกเป็น น้ำป่าไหลหลาก 23 จังหวัด 145 อำเภอ ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ชัยภูมิ ยโสธรและขอนแก่น ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และอุทัยธานี ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท และประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และระยอง แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่ง 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรีและสุพรรณบุรี มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 16 อำเภอ 142 ตำบล 656 หมู่บ้าน แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมเริ่มคลี่คลาย หลายพื้นที่ระดับน้ำลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ พื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับจังหวัด และกองทัพ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการสัญจร การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ การรักษาสุขภาพอนามัยและสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยเป็นพิเศษ เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายให้เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมจัดทำฐานข้อมูลการให้ความช่วยเหลือครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และเกษตรกรรม เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรม ครอบคลุมตามขั้นตอนและระเบียบกระทรวงการคลังฯ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และจังหวัดประสานการดำเนินงาน พร้อมรายงานสถานการณ์ต่อรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์อุทกภัย ดูแลพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นระยะอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะยุติ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการสั่งการและวางแผน ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 38 จังหวัด ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่รวม 17,267 คน พร้อมนำสิ่งของพระราชทาน 56,989 ชุด ถุงยังชีพ 244,512 ชุด ข้าวกล่อง 173,835 กล่อง น้ำดื่ม 276,115 ขวด เวชภัณฑ์ 114,830 ชุด แจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น รวมถึงนำรถผลิตน้ำดื่ม 18 คัน เต็นท์พักชั่วคราว 304 หลัง สุขาเคลื่อนที่ 166 ห้อง เรือท้องแบน 1,250 ลำ เรือพาย 5,600 ลำ ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตลอดจนนำเครื่องผลักดันน้ำ 17 เครื่อง เครื่องสูบน้ำ 285 เครื่อง ติดตั้งในจุดอ่อนน้ำท่วมขังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ และกระสอบทราย 384,510 ถุง สำหรับจัดทำแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำและพื้นที่สำคัญของจังหวัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ